วันนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีความผิดต่อชีวิต หมายเลขดำ อ.2788/58 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.ต.ชุมพล ด้วงประดิษฐ์ อายุ 50 ปี อดีต ผบ.หมู่ ฝอ.6 บก.อก.ตชด. เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กรณีเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2558 เวลากลางวัน จำเลยได้ใช้อาวุธปืนกล็อกขนาด 9 มม. ยิงนายกรธรรม อินทร อายุ 43 ปี เจ้าหน้ากองธุรการฝ่ายที่ประทับ สำนักพระราชวัง ที่ลำคอ และตามร่างกาย 3 นัด จนถึงแก่ความตาย ซึ่งผู้ตายเป็นอดีตสามี น.ส.จิริยาภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี อาชีพแม่บ้านมหาวิทยาลัยของรัฐ แห่งหนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับจำเลย สาเหตุเนื่องจากจำเลยโกรธแค้น ที่ผู้ตายที่เลิกราจาก น.ส.จริยาภรณ์ไปแล้ว แต่กลับมาขอนอนพัก อ้างว่ามีอาการป่วยที่ห้องเช่าของ น.ส.จริยาภรณ์ ย่านเขตดุสิต เมื่อจำเลยกลับมาเห็นจึงเกิดความไม่พอใจ โต้เถียงชกต่อยกับผู้ตาย และใช้อาวุธปืนยิงนายกรธรรมจนถึงแก่ความตาย ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาจำเลยเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต และให้การปฏิเสธว่า กระทำไปเพื่อป้องกันตัว คดีนี้ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง พิพากษาจำคุก 20 ปี 1 เดือน จำเลยยื่นอุทธรณ์
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า จากร่องรอยบาดแผล เหตุจูงใจ รวมทั้งคำเบิกความของพยานโจทก์ที่เบิกความไปตามจริง ไม่มีเหตุปรักปรำใส่ร้ายจำเลย ข้อเท็จจริงจึงรับฟังโดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายจริง อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า จากร่องรอยบาดแผล เหตุจูงใจ รวมทั้งคำเบิกความของพยานโจทก์ที่เบิกความไปตามจริง ไม่มีเหตุปรักปรำใส่ร้ายจำเลย ข้อเท็จจริงจึงรับฟังโดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายจริง อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน