พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 และผู้แทนพิเศษรัฐบาล เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เปลี่ยนมาใช้ถังก๊าซคอมโพสิตแทนถังเหล็ก เพื่อป้องกันคนร้ายนำไปทำระเบิด
ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนส่วนหนึ่งที่ยังไม่มั่นใจในคุณภาพของถังก๊าซแบบคอมโพสิต ทาง บริษัท PJ คอมโพสิต จำกัด จึงได้ทำการทดสอบร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กรมธุรกิจพลังงาน และผู้ผลิตถังก๊าซคอมโพสิต เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่บริษัท PJ คอมโพสิต จำกัด ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ผลการทดสอบพบว่า ถังก๊าซคอมโพสิตสามารถใช้ก๊าซในการหุงต้มได้หมดเท่ากับถังก๊าซเหล็ก และที่สำคัญถังก๊าซคอมโพสิตมีคุณภาพที่เด่นกว่าถังก๊าซแบบเหล็ก คือ การไม่เป็นสนิม ซึ่งเหมาะกับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความทนทาน น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ขนส่งสะดวก รูปแบบสวยงาม และเมื่อเกิดอุบัติเหตุความรุนแรงจะลดลง เพราะไม่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบ อีกทั้งการประกอบอาหารในครัวเรือนและร้านอาหาร ยกเว้นกรณีการใช้งานที่มากกว่าปกติ เช่น ร้านจำหน่ายอาหารที่ใช้เตาต่อพ่วงหลายเตาและเปิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะต้องมีการพักถังเพื่อให้แรงดันก๊าซกลับมาอยู่ในระดับปกติ โดยผลการทดสอบยืนยันได้ถึงความคุ้มค่าในการใช้งานของถังก๊าซคอมโพสิต
ทั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปลี่ยนมาใช้ถังก๊าซคอมโพสิตแทนถังเหล็กแบบเก่า ซึ่งปัจจุบันในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศทั้งในเอเชียและยุโรป ต่างก็เปลี่ยนไปใช้ถังก๊าซคอมโพสิต แต่สำหรับในประเทศไทย ได้นำมาใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้นำมาใช้เป็นที่แรก จึงขอให้ผู้ใช้มั่นใจในคุณภาพของถังคอมโพสิตที่ดีกว่า ทั้งในเรื่องของคุณภาพ และความปลอดภัย
ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนส่วนหนึ่งที่ยังไม่มั่นใจในคุณภาพของถังก๊าซแบบคอมโพสิต ทาง บริษัท PJ คอมโพสิต จำกัด จึงได้ทำการทดสอบร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กรมธุรกิจพลังงาน และผู้ผลิตถังก๊าซคอมโพสิต เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่บริษัท PJ คอมโพสิต จำกัด ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ผลการทดสอบพบว่า ถังก๊าซคอมโพสิตสามารถใช้ก๊าซในการหุงต้มได้หมดเท่ากับถังก๊าซเหล็ก และที่สำคัญถังก๊าซคอมโพสิตมีคุณภาพที่เด่นกว่าถังก๊าซแบบเหล็ก คือ การไม่เป็นสนิม ซึ่งเหมาะกับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความทนทาน น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ขนส่งสะดวก รูปแบบสวยงาม และเมื่อเกิดอุบัติเหตุความรุนแรงจะลดลง เพราะไม่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบ อีกทั้งการประกอบอาหารในครัวเรือนและร้านอาหาร ยกเว้นกรณีการใช้งานที่มากกว่าปกติ เช่น ร้านจำหน่ายอาหารที่ใช้เตาต่อพ่วงหลายเตาและเปิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะต้องมีการพักถังเพื่อให้แรงดันก๊าซกลับมาอยู่ในระดับปกติ โดยผลการทดสอบยืนยันได้ถึงความคุ้มค่าในการใช้งานของถังก๊าซคอมโพสิต
ทั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปลี่ยนมาใช้ถังก๊าซคอมโพสิตแทนถังเหล็กแบบเก่า ซึ่งปัจจุบันในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศทั้งในเอเชียและยุโรป ต่างก็เปลี่ยนไปใช้ถังก๊าซคอมโพสิต แต่สำหรับในประเทศไทย ได้นำมาใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้นำมาใช้เป็นที่แรก จึงขอให้ผู้ใช้มั่นใจในคุณภาพของถังคอมโพสิตที่ดีกว่า ทั้งในเรื่องของคุณภาพ และความปลอดภัย