วันนี้ (8 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เดินทางไปยังศาลทหารเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 11 ราย ที่เชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่ส่งทางไปรษณีย์
เบื้องต้นศาลทหารได้พิเคราะห์เห็นควรออกหมายจับผู้ต้องหาตามคำร้องของทางพนักงานสอบสวน โดยศาลทหารได้ออกหมายจับ จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์ ในฐานความผิด ตามมาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 40,000 บาท ความผิดตามมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000 บาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ ครองครองและจำหน่ายอาวุธสงคราม
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 11 รายที่ถูกคุมตัวและจะถูกนำตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ประกอบไปด้วย ร.ท.สันติ นามวิเศษ จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์ จ.ส.อ.พลหงส์ศาสตร์ (ไม่ทราบนามสกุล) ส.อ.สุทธิโชค ไพเราะ ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ พลทหาร สกลนที พรหมทอง นายเกษมสุข นามศรี นายสิทธิชัย ทองเชื้อ นายณัฐพล อยู่ยืด นายณัฐพงศ์ ทองคำพันธุ์ และนายศักดิ์สิทธิ์ จันทาป
ในส่วนของ จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี และ จ.ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ ศาลทหารได้ออกหมายจับในฐานความผิดสนับสนุนตาม มาตรา 147 และมาตรา 157 รวมทั้งในฐานความผิดร่วมกันครองครองและจำหน่ายอาวุธสงคราม ในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือเบื้องต้นศาลได้ออกหมายจับในฐานความผิด ซื้อและครอบครองอาวุธสงคราม
โดยในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมารับมอบตัวผู้ต้องหาคดีระเบิดที่ส่งทางไปรษณีย์ จำนวน 11 ราย หลังถูกเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจตามมาตรา 44 คุมตัวไว้ได้ ซึ่งจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้
เบื้องต้นศาลทหารได้พิเคราะห์เห็นควรออกหมายจับผู้ต้องหาตามคำร้องของทางพนักงานสอบสวน โดยศาลทหารได้ออกหมายจับ จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์ ในฐานความผิด ตามมาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 40,000 บาท ความผิดตามมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000 บาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ ครองครองและจำหน่ายอาวุธสงคราม
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 11 รายที่ถูกคุมตัวและจะถูกนำตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ประกอบไปด้วย ร.ท.สันติ นามวิเศษ จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์ จ.ส.อ.พลหงส์ศาสตร์ (ไม่ทราบนามสกุล) ส.อ.สุทธิโชค ไพเราะ ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ พลทหาร สกลนที พรหมทอง นายเกษมสุข นามศรี นายสิทธิชัย ทองเชื้อ นายณัฐพล อยู่ยืด นายณัฐพงศ์ ทองคำพันธุ์ และนายศักดิ์สิทธิ์ จันทาป
ในส่วนของ จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี และ จ.ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ ศาลทหารได้ออกหมายจับในฐานความผิดสนับสนุนตาม มาตรา 147 และมาตรา 157 รวมทั้งในฐานความผิดร่วมกันครองครองและจำหน่ายอาวุธสงคราม ในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือเบื้องต้นศาลได้ออกหมายจับในฐานความผิด ซื้อและครอบครองอาวุธสงคราม
โดยในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมารับมอบตัวผู้ต้องหาคดีระเบิดที่ส่งทางไปรษณีย์ จำนวน 11 ราย หลังถูกเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจตามมาตรา 44 คุมตัวไว้ได้ ซึ่งจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้