xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยัน รบ.ทำอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาก่อการร้ายทุกระบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงคำชี้แจง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อประเด็นคำถามสื่อมวลชนกรณีปัญหาการก่อการร้ายขึ้นถี่ โดยเฉพาะแบบโลนวูฟ ที่ผู้ก่อเหตุกระทำคนเดียวหรือกลุ่มเล็กๆ โดยไม่ได้เชื่อมโยงกับองค์กรก่อการร้ายขนาดใหญ่ ทำให้ป้องกันยาก รวมถึงภัยคุกคามจากไอเอสในอาเซียนว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกัน และปราบปรามในทุกระบบ และต้องสร้างให้ประชาชนสังคมมีส่วนร่วมในการช่วยเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในสังคม

ส่วนการจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานความมั่งคงอยู่แล้ว ซึ่งการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เป็นการจัดซื้อทดลดแทนสิ่งที่ชำรุดในการป้องกันภัยคุกคามทั้งรูปแบบเก่าและรูปใหม่ใหม่ เพราะการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ย่อมมีวัถตุประสงค์ของตัวมันเอง 

ส่วนกรณีความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และคสช. มีความกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง แต่ยอมว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้กำจัดได้หมด 

ดังนั้นในฐานะที่ทุกคนเป็นคนไทย ต้องสร้างความเข้มแข็งไปได้กัน และเอาอะไรมาคิดว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์จากฝ่ายเดียวกันเอง ซึ่งคนจ้างต้องหาคนที่สามารถทำงานได้อาจจะเป็นทหารตำรวจที่อยู่ในหรือนอกราชการก็ได้ ซึ่งเป็นคนไม่ดีไหนล้วนมีสิทธิ์เป็นผู้ก่อเหตุได้ทั้งสิ้น



นอกจากนี้ พ.อ.หญิง ทักษดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังตอบคำถามถึงกรณีที่มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้าอาวุธสงคราม ว่า การค้าอาวุธสงครามหรือขบวนการต่างๆ ต้องกวดขัน และตรวจตราอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้ร่วมขบวนการมีทั้งเจ้าหน้าที่ ประชาชน และคนไม่ดีต่างๆ หากใครเข้าไปร่วมขบวนการเหล่านี้ต้องดำเนินการตามกฏหมายต่อไป  อย่างไรก็ตามขณะนี้ตรวจสอบพบว่าแหล่งที่มาว่ามีการขโมยอาวุธในคลังแสงของกองทัพมาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่พบว่ามีการรั่วไหลจากคลัง หากตรวจพบต้องลงโทษสถานหนักทั้งทางวินัยและอาญา ขณะเดียวกันยังไม่พบว่ามีรถของราชการเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มีการสวมทะเบียนป้ายกงจักรเพื่อให้ผ่านด่านไปได้ โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ตรวจสอบรถทุกคัน รวมถึงรถของหน่วยราชการทุกหน่วยงานด้วย ส่วนกรณีที่มีการส่งอาวุธสงครามผ่านทางไปรษณีย์เอกชนนั้น เบื้องต้นมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ โดยให้ผู้บัญชาการทุกหน่วยหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนกับทางเจ้าหน้าตำรวจต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น