นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาความปลอดภัยบริเวณหน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ปทุมธานี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยจุดดังกล่าวเป็นทางโค้งบริเวณหน้าโรงเรียน ซึ่งกรมทางหลวงระบุว่าเป็น 1 ใน 300 จุด ที่สุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ โดยภายหลังหารือร่วมกับผู้บริหารโรงเรียน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ได้สั่งการให้มีการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยหน้าโรงเรียนดังกล่าว เนื่องจากโรงเรียนขนาดใหญ่มีนักเรียนมากกว่า 2,000 คน และกว่าร้อยละ 50 เดินทางมาโรงเรียนด้วยระบบรถสาธารณะ
ทั้งนี้ จึงได้กำหนดมาตรการ เช่น การติดตั้งเครื่องกั้นบริเวณเกาะกลางถนนแบ่งแยกช่องจราจรให้ชัดเจน เพิ่มไฟแสงสว่างบริเวณทางข้าม การกำหนดจุดกลับรถที่ทำให้เกิดความปลอดภัย เนื่องจากหน้าโรงเรียนเป็นทางโค้ง ขอให้เพิ่มป้ายสัญญาณแจ้งว่าเป็นจุดทางโค้งเพื่อให้รถสัญจรทราบ รวมถึงเพิ่มความหนืดของพื้นผิวถนน เพื่อให้รถชะลอความเร็วเมื่อเข้าเขตหน้าโรงเรียน เพิ่มป้ายรถเมล์ที่ทำให้นักเรียนเดินทางสะดวก รวมถึงเพิ่มผิวฟุตปาธให้เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันค่อนข้างแคบ ทำให้นักเรียนเดินทางไม่สะดวก
นอกจากนี้ ยังพบว่าหลังเวลาเลิกเรียนรถเมล์รับ-ส่งจะมีระยะห่างของช่วงเวลารถเข้าป้ายถึง 1 ชั่วโมง ก็จะขอให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไปพิจารณาเพิ่มความถี่ของรถเมล์มากขึ้น และสุดท้าย เนื่องจากถนนหน้าโรงเรียนตลอดวันมีปริมาณจรารจรกว่า 30,000 คัน และจำนวนดังกล่าวมีรถบรรทุกวิ่งรับ-ส่งสินค้าเข้าออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและจุดอื่น ๆ จำนวนมาก จึงสั่งให้กรมทางหลวงศึกษาเปลี่ยนเส้นทางสัญจรไปถนนอื่น หรือควบคุมเวลาวิ่ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่เยาวชนที่ต้องเดินทางไปกลับโรงเรียนช่วงเช้าและเย็
ทั้งนี้ จึงได้กำหนดมาตรการ เช่น การติดตั้งเครื่องกั้นบริเวณเกาะกลางถนนแบ่งแยกช่องจราจรให้ชัดเจน เพิ่มไฟแสงสว่างบริเวณทางข้าม การกำหนดจุดกลับรถที่ทำให้เกิดความปลอดภัย เนื่องจากหน้าโรงเรียนเป็นทางโค้ง ขอให้เพิ่มป้ายสัญญาณแจ้งว่าเป็นจุดทางโค้งเพื่อให้รถสัญจรทราบ รวมถึงเพิ่มความหนืดของพื้นผิวถนน เพื่อให้รถชะลอความเร็วเมื่อเข้าเขตหน้าโรงเรียน เพิ่มป้ายรถเมล์ที่ทำให้นักเรียนเดินทางสะดวก รวมถึงเพิ่มผิวฟุตปาธให้เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันค่อนข้างแคบ ทำให้นักเรียนเดินทางไม่สะดวก
นอกจากนี้ ยังพบว่าหลังเวลาเลิกเรียนรถเมล์รับ-ส่งจะมีระยะห่างของช่วงเวลารถเข้าป้ายถึง 1 ชั่วโมง ก็จะขอให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไปพิจารณาเพิ่มความถี่ของรถเมล์มากขึ้น และสุดท้าย เนื่องจากถนนหน้าโรงเรียนตลอดวันมีปริมาณจรารจรกว่า 30,000 คัน และจำนวนดังกล่าวมีรถบรรทุกวิ่งรับ-ส่งสินค้าเข้าออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและจุดอื่น ๆ จำนวนมาก จึงสั่งให้กรมทางหลวงศึกษาเปลี่ยนเส้นทางสัญจรไปถนนอื่น หรือควบคุมเวลาวิ่ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่เยาวชนที่ต้องเดินทางไปกลับโรงเรียนช่วงเช้าและเย็
