นายโวสิต วรทรัพย์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2560 กรมการกงสุลยังคงเดินหน้าภารกิจการดูแลคนไทยที่พำนักอยู่ในต่างประเทศ โดยจะดำเนินโครงการเชิญบุคลากรจากหน่วยงานราชการอื่นๆ ไปทำความเข้าใจและให้ความรู้แก่คนไทยในประเทศต่างๆ เช่น การเชิญสัสดีไปให้ความรู้กรณีที่บุตรชายของคนไทยในต่างประเทศที่มีชื่อในทะเบียนบ้านและมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร การอธิบายข้อกฎหมายเกี่ยวกับกรณีของคนไทยที่สมรสกับชาวต่างชาติ การนำคณะแพทย์ไปให้บริการด้านสุขภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้จากการที่ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยดำเนินงานที่เกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่าทะเบียนราษฎร์ออนไลน์ รวมถึงให้บริการทำบัตรประจำตัวประชาชนแทนบัตรหมดอายุหรือสูญหายได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในแต่ละประเทศนั้น กรมการกงสุลจะเชิญผู้แทนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ไปอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย เรื่องการใช้อุปกรณ์และการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เพื่อให้การบริการแก่ประชาชนมีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มการอบรมดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคยุโรปและอเมริกาเป็นลำดับแรก
นอกจากนี้ ในต้นปี 2560 มีแผนที่จะย้ายที่ทำการของกองสัญชาติและนิติกรณ์จากอาคารกรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะไปอยู่ในอาคารบี ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ แล้วให้สำนักงานของฝ่ายหนังสือเดินทางทูตและราชการ และฝ่ายหนังสือเดินทางไทยในต่างประเทศออกจากศูนย์ราชการฯ ไปอยู่ในพื้นที่กรมการกงสุล เพื่อรวมงานที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเดินทางอยู่ในที่ที่เดียว ขณะเดียวกัน จะทำให้ประชาชนที่จะต้องติดต่อราชการกับกองสัญชาติและนิติกรณ์ในการขอรับรองเอกสารต่างๆ ได้รับความสะดวกในแง่ของการเดินทางและขนาดพื้นที่ที่กว้างขวางมากขึ้น
นอกจากนี้จากการที่ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยดำเนินงานที่เกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่าทะเบียนราษฎร์ออนไลน์ รวมถึงให้บริการทำบัตรประจำตัวประชาชนแทนบัตรหมดอายุหรือสูญหายได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในแต่ละประเทศนั้น กรมการกงสุลจะเชิญผู้แทนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ไปอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย เรื่องการใช้อุปกรณ์และการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เพื่อให้การบริการแก่ประชาชนมีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มการอบรมดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคยุโรปและอเมริกาเป็นลำดับแรก
นอกจากนี้ ในต้นปี 2560 มีแผนที่จะย้ายที่ทำการของกองสัญชาติและนิติกรณ์จากอาคารกรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะไปอยู่ในอาคารบี ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ แล้วให้สำนักงานของฝ่ายหนังสือเดินทางทูตและราชการ และฝ่ายหนังสือเดินทางไทยในต่างประเทศออกจากศูนย์ราชการฯ ไปอยู่ในพื้นที่กรมการกงสุล เพื่อรวมงานที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเดินทางอยู่ในที่ที่เดียว ขณะเดียวกัน จะทำให้ประชาชนที่จะต้องติดต่อราชการกับกองสัญชาติและนิติกรณ์ในการขอรับรองเอกสารต่างๆ ได้รับความสะดวกในแง่ของการเดินทางและขนาดพื้นที่ที่กว้างขวางมากขึ้น
