พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำหรับของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงแรงงานมอบให้แก่ลูกจ้าง นายจ้าง และสถานประกอบกิจการในปีใหม่นี้มีจำนวน 10 ชิ้น ประกอบด้วย 1.การตรวจสภาพรถฟรี ขับขี่ปลอดภัยจากใจกระทรวงแรงงาน เพื่อตรวจสภาพความพร้อมของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในช่วงเทศกาลปีใหม่
2.การจัดกิจกรรมส่งแรงงานกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยจัดเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เรื่องประกันสังคม พร้อมมอบของที่ระลึกในการส่งแรงงานกลับบ้าน ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งหมอชิต และสถานีขนส่งสายใต้ใหม่
3.การปรับเพิ่มค่าทันตกรรมจาก 600 บาทเป็น 900 บาทต่อปี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายทั่วประเทศ
4.การคืนสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 โดยเปิดโอกาสให้บุคคลที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 เนื่องจากขาดส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสามารถขอกลับมาเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้
5.การให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ผู้ประกันตนในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิ
6.การส่งเสริมการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยสนับสนุนเงินอุดหนุนให้ผู้ดำเนินการทดสอบฯ จำนวน 10,000 บาท เมื่อดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และมีผู้ผ่านการทดสอบฯ ทุกๆ 100 คน
7.การสนับสนุนผู้ประกอบกิจการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงาน ให้แก่ผู้ประกอบกิจการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานของตนเองสาขาระดับละ 10,000 บาท
8.การส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ
9.การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาให้บริการจัดหางานต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความโปร่งใส
และ 10.การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป และอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือซึ่งมีอัตราตั้งแต่ 385 – 815 บาท
2.การจัดกิจกรรมส่งแรงงานกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยจัดเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เรื่องประกันสังคม พร้อมมอบของที่ระลึกในการส่งแรงงานกลับบ้าน ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งหมอชิต และสถานีขนส่งสายใต้ใหม่
3.การปรับเพิ่มค่าทันตกรรมจาก 600 บาทเป็น 900 บาทต่อปี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายทั่วประเทศ
4.การคืนสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 โดยเปิดโอกาสให้บุคคลที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 เนื่องจากขาดส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสามารถขอกลับมาเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้
5.การให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ผู้ประกันตนในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิ
6.การส่งเสริมการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยสนับสนุนเงินอุดหนุนให้ผู้ดำเนินการทดสอบฯ จำนวน 10,000 บาท เมื่อดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และมีผู้ผ่านการทดสอบฯ ทุกๆ 100 คน
7.การสนับสนุนผู้ประกอบกิจการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงาน ให้แก่ผู้ประกอบกิจการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานของตนเองสาขาระดับละ 10,000 บาท
8.การส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ
9.การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาให้บริการจัดหางานต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความโปร่งใส
และ 10.การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป และอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือซึ่งมีอัตราตั้งแต่ 385 – 815 บาท