เมื่อเวลา 10.00 น. (21 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดเดินรถโดยสารชั้น 3 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ปรับปรุงใหม่ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นความฝันในรอบ 60 ปีของการรถไฟฯ ได้เห็นการเริ่มต้นการปฏิรูปรถไฟไทย อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูในเรื่องระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงการแก้ปัญหาการจราจร ซึ่งรัฐบาลคิดทั้งระบบ ทุกภาคส่วนต้องคิดตรงกัน ไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ แต่วันนี้ถือว่าทุกคนเห็นตรงกันแล้ว ประชาชนมีความพึงพอใจ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับปรุงรถไฟชั้นอื่นแล้ว อย่าลืมชั้น 3 เพราะโดยสารรถไฟชั้น 3 ก็ต้องการรถใหม่ และสะอาด จึงต้องทำให้ประชาชนได้สัมผัสว่าเป็นรถไฟของทุกอาชีพ ทุกระดับ ขณะที่รถไฟชั้น 1 ถูกจองล่วงหน้ายาวถึง 6 เดือน แสดงว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้น ดังนั้น จึงต้องพัฒนาระบบขนส่งอย่างอื่นด้วย และต้องทำให้รถไฟเป็นขบวนเดียวกันให้ได้ในอนาคต สิ่งสำคัญคือการสร้างความเข้าใจ ซึ่งขณะนี้สื่อแสดงให้เห็นว่ามีความไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคิดและทำอะไร จึงขอให้สร้างความเข้าใจใหม่ เพราะหลายอย่างยังอยู่ที่เดิมในแง่การรับรู้ และความเข้าใจ ซึ่งตนพูดคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันพูดว่ารัฐบาลทำเพื่อใคร
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลปรับปรุงรถไฟเก่าให้ใหม่ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยไปรังแกใคร แต่อยากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยขอให้ทั้งลูกจ้าง และสหภาพฯ ร่วมมือกับรัฐบาล มองถึงผลประโยชน์ของประชาชน วันข้างหน้าอยากให้มีการพัฒนาให้รถไฟวิ่งผ่านอุโมงค์แล้วมีน้ำฉีดเพื่อล้างรถไฟ เพราะรถไฟเป็นยานพาหนะเดียวที่มีราคาถูกในระยะยาว ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนาตามระยะเวลาที่มีอยู่ และนำพาทุกคนไปพร้อมกัน จึงขออย่าหลงเชื่อการบิดเบือน ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เน้นย้ำในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส พร้อมย้ำว่าไม่เคยรู้จักใครในกระบวนการซื้อขายรถไฟ ไม่มีญาติหรือพี่น้องที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถึงมีก็ไม่ทำให้ เพราะต้องการทำให้คนไทย ดังนั้นเรื่องผลประโยชน์จะมาพูดกับตนไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นความฝันในรอบ 60 ปีของการรถไฟฯ ได้เห็นการเริ่มต้นการปฏิรูปรถไฟไทย อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูในเรื่องระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงการแก้ปัญหาการจราจร ซึ่งรัฐบาลคิดทั้งระบบ ทุกภาคส่วนต้องคิดตรงกัน ไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ แต่วันนี้ถือว่าทุกคนเห็นตรงกันแล้ว ประชาชนมีความพึงพอใจ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับปรุงรถไฟชั้นอื่นแล้ว อย่าลืมชั้น 3 เพราะโดยสารรถไฟชั้น 3 ก็ต้องการรถใหม่ และสะอาด จึงต้องทำให้ประชาชนได้สัมผัสว่าเป็นรถไฟของทุกอาชีพ ทุกระดับ ขณะที่รถไฟชั้น 1 ถูกจองล่วงหน้ายาวถึง 6 เดือน แสดงว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้น ดังนั้น จึงต้องพัฒนาระบบขนส่งอย่างอื่นด้วย และต้องทำให้รถไฟเป็นขบวนเดียวกันให้ได้ในอนาคต สิ่งสำคัญคือการสร้างความเข้าใจ ซึ่งขณะนี้สื่อแสดงให้เห็นว่ามีความไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคิดและทำอะไร จึงขอให้สร้างความเข้าใจใหม่ เพราะหลายอย่างยังอยู่ที่เดิมในแง่การรับรู้ และความเข้าใจ ซึ่งตนพูดคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันพูดว่ารัฐบาลทำเพื่อใคร
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลปรับปรุงรถไฟเก่าให้ใหม่ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยไปรังแกใคร แต่อยากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยขอให้ทั้งลูกจ้าง และสหภาพฯ ร่วมมือกับรัฐบาล มองถึงผลประโยชน์ของประชาชน วันข้างหน้าอยากให้มีการพัฒนาให้รถไฟวิ่งผ่านอุโมงค์แล้วมีน้ำฉีดเพื่อล้างรถไฟ เพราะรถไฟเป็นยานพาหนะเดียวที่มีราคาถูกในระยะยาว ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนาตามระยะเวลาที่มีอยู่ และนำพาทุกคนไปพร้อมกัน จึงขออย่าหลงเชื่อการบิดเบือน ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เน้นย้ำในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส พร้อมย้ำว่าไม่เคยรู้จักใครในกระบวนการซื้อขายรถไฟ ไม่มีญาติหรือพี่น้องที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถึงมีก็ไม่ทำให้ เพราะต้องการทำให้คนไทย ดังนั้นเรื่องผลประโยชน์จะมาพูดกับตนไม่ได้
