นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐขอยืดระยะเวลาการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า ไม่มีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาที่กำหนดไว้วันที่ 30 ธันวาคมนี้ ออกไป โดยทั้ง 3 แบงก์ ทั้งธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จตามกำหนด เพราะเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลมอบให้ มีจุดประสงค์เพื่อต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยไว้ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า แบงก์รัฐทั้ง 3 แห่งได้จัดสรรวงเงินช่วยเหลือถึงมือประชาชนแล้วจำนวนมาก โดยจะเหลือเพียงบางรายเท่านั้น เนื่องจากยังติดปัญหาเรื่องการตรวจสอบสิทธิ์ ซึ่งผู้ที่มาลงทะเบียนสามารถเข้ามาชี้แจง หรือแสดงหลักฐาน เพื่อให้แบงก์รัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการจ่ายเงินได้ทันที โดยการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ได้ล่าช้า จึงไม่มีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไป
สำหรับปี 2560 รัฐบาลวางแผนเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนรอบใหม่ในเดือนมีนาคม เลื่อนขึ้นมาให้เร็วขึ้นจากกำหนดเดิม ที่คาดว่าจะลงทะเบียนในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากต้องการให้ทันใช้ระบบการจ่ายเงินสวัสดิการของรัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเบื้องต้นจะออกบัตรประจำตัวให้กับกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ บัตรที่รัฐบาลจะออกให้จะมีรูปหน้าตรง ชื่อ และเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักกำกับไว้ เพื่อป้องกันการสวมสิทธินำบัตรผู้อื่นไปใช้ ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐในปีนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงใหม่ แต่กรมสรรพากรจะตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ว่ายังเป็นผู้ที่มีสิทธิรับสวัสดิการดังกล่าวอีกหรือไม่ เพราะหากไม่ตรวจสอบใหม่ อาจทำให้บางรายที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด ยังคงได้รับเงินดังกล่าวอยู่ ซึ่งนับว่าไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า แบงก์รัฐทั้ง 3 แห่งได้จัดสรรวงเงินช่วยเหลือถึงมือประชาชนแล้วจำนวนมาก โดยจะเหลือเพียงบางรายเท่านั้น เนื่องจากยังติดปัญหาเรื่องการตรวจสอบสิทธิ์ ซึ่งผู้ที่มาลงทะเบียนสามารถเข้ามาชี้แจง หรือแสดงหลักฐาน เพื่อให้แบงก์รัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการจ่ายเงินได้ทันที โดยการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ได้ล่าช้า จึงไม่มีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไป
สำหรับปี 2560 รัฐบาลวางแผนเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนรอบใหม่ในเดือนมีนาคม เลื่อนขึ้นมาให้เร็วขึ้นจากกำหนดเดิม ที่คาดว่าจะลงทะเบียนในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากต้องการให้ทันใช้ระบบการจ่ายเงินสวัสดิการของรัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเบื้องต้นจะออกบัตรประจำตัวให้กับกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ บัตรที่รัฐบาลจะออกให้จะมีรูปหน้าตรง ชื่อ และเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักกำกับไว้ เพื่อป้องกันการสวมสิทธินำบัตรผู้อื่นไปใช้ ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐในปีนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงใหม่ แต่กรมสรรพากรจะตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ว่ายังเป็นผู้ที่มีสิทธิรับสวัสดิการดังกล่าวอีกหรือไม่ เพราะหากไม่ตรวจสอบใหม่ อาจทำให้บางรายที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด ยังคงได้รับเงินดังกล่าวอยู่ ซึ่งนับว่าไม่เหมาะสม
