สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร ก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเฟดจะแถลงมติการประชุมหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ระดับ 1,163.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรในตลาดทองคำ ก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด ซึ่งโดยปกติแล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะแถลงมติการประชุมหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการไปแล้ว
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงานสหรัฐ และหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ออกมาส่งสัญญาณในช่วงก่อนหน้านี้
ขณะที่ผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 98% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปีนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนั้น ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจลดลง 0.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ระดับ 1,163.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรในตลาดทองคำ ก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด ซึ่งโดยปกติแล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะแถลงมติการประชุมหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการไปแล้ว
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงานสหรัฐ และหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ออกมาส่งสัญญาณในช่วงก่อนหน้านี้
ขณะที่ผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 98% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปีนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนั้น ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจลดลง 0.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%