พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เริ่มจ่ายเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ คนละ 1,500 – 3,000 บาทแล้ว ซึ่งจะดำเนินการทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่พี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ผู้มีรายได้น้อยที่มีข้อมูลและคุณสมบัติครบถ้วนที่ลงทะเบียนผ่านธนาคารกรุงไทย มีจำนวน 981,000 ราย ธนาคารออมสิน 2,160,000 ราย และ ธ.ก.ส. 3,840,000 ราย แบ่งเป็นผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ของทั้ง 3 ธนาคาร จะได้รับเงิน 3,000 บาท จำนวน 3,820,000 ราย และผู้ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงิน 1,500 บาท จำนวน 3,161,000 ราย
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ทั้ง 3 ธนาคาร ได้เริ่มโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของผู้ที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ส่วนผู้ที่ยังไม่มีสมุดบัญชีเงินฝาก ได้เดินทางไปรับเงินกันอย่างคึกคัก โดยธนาคารขอเชิญชวนให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเปิดบัญชีเงินฝากได้ ณ สาขาที่สะดวก โดยไม่ต้องมีเงินฝาก ภายในระยะเวลาที่แต่ละธนาคารกำหนด เพื่อเร่งโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีคุณสมบัติครบถ้วนโดยด่วนต่อไป
ส่วนกระแสข่าวที่ปรากฏทางสื่อออนไลน์ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับขึ้นเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) ร้อยละ 4 โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 นั้น ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติปรับขึ้น ช.ค.บ.ร้อยละ 4 ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า มาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เป็นมาตรการชั่วคราวที่ทำควบคู่ไปกับมาตรการทางเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และไม่ทำให้ประชาชนเป็นหนี้เพิ่ม
ทั้งนี้ ผู้มีรายได้น้อยที่มีข้อมูลและคุณสมบัติครบถ้วนที่ลงทะเบียนผ่านธนาคารกรุงไทย มีจำนวน 981,000 ราย ธนาคารออมสิน 2,160,000 ราย และ ธ.ก.ส. 3,840,000 ราย แบ่งเป็นผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ของทั้ง 3 ธนาคาร จะได้รับเงิน 3,000 บาท จำนวน 3,820,000 ราย และผู้ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงิน 1,500 บาท จำนวน 3,161,000 ราย
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ทั้ง 3 ธนาคาร ได้เริ่มโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของผู้ที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ส่วนผู้ที่ยังไม่มีสมุดบัญชีเงินฝาก ได้เดินทางไปรับเงินกันอย่างคึกคัก โดยธนาคารขอเชิญชวนให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเปิดบัญชีเงินฝากได้ ณ สาขาที่สะดวก โดยไม่ต้องมีเงินฝาก ภายในระยะเวลาที่แต่ละธนาคารกำหนด เพื่อเร่งโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีคุณสมบัติครบถ้วนโดยด่วนต่อไป
ส่วนกระแสข่าวที่ปรากฏทางสื่อออนไลน์ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับขึ้นเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) ร้อยละ 4 โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 นั้น ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติปรับขึ้น ช.ค.บ.ร้อยละ 4 ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า มาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เป็นมาตรการชั่วคราวที่ทำควบคู่ไปกับมาตรการทางเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และไม่ทำให้ประชาชนเป็นหนี้เพิ่ม