พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ หรือ Area based เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy) โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำการพัฒนาพื้นที่ตามแนวทางประชารัฐ ตั้งเป้าเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นแกนนำทุกองคาพยพในจังหวัด ทั้งหน่วยราชการ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมกันสร้างศักยภาพในพื้นที่ โดยเฉพาะภาคการผลิต อุตสาหกรรมและเกษตรกรรม จะต้องค้นหาจุดแข็งของตนเองเพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่าง โดยนำองค์ความรู้ทางวิชาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จากสถานศึกษาในและนอกพื้นที่ มาช่วยยกระดับการผลิตและคุณภาพของสินค้าตั้งแต่ระดับชุมชน ส่วนรัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัดและประชาชนในพื้นที่ เช่น โครงสร้างทางดิจิทัล ระบบอินเทอร์เน็ต โครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ ท่าเรือ สนามบิน รถไฟทางคู่ เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งทุกระบบ เตรียมความพร้อมให้ไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค” พลโทสรรเสริญ กล่าว
พลโทสรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 ทั้งในระดับจังหวัดและกระทรวง จะเน้นการบูรณาการทั้งเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda based) มิติพื้นที่ (Area based) และมิติกระทรวงหรือหน่วยงานให้สอดคล้องกัน รวมทั้งกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลสำเร็จให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อนและตอบได้ว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างไร
พลโทสรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 ทั้งในระดับจังหวัดและกระทรวง จะเน้นการบูรณาการทั้งเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda based) มิติพื้นที่ (Area based) และมิติกระทรวงหรือหน่วยงานให้สอดคล้องกัน รวมทั้งกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดผลสำเร็จให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อนและตอบได้ว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างไร