พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า 2 ปีที่ผ่านมานี้ พบว่ามีการทุจริตน้อยลง โดยในปีนี้ ในส่วนของ ป.ป.ช. มีการใช้งบประมาณ 2,700 ล้านบาท เป็นเงินเดือน การดำเนินงานบูรณาการภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนในการแก้ปัญหาการทุจริต ส่วนการแถลงว่ามีหน่วยงานใดบ้างที่มีการกระทำไปในทางทุจริต ได้มอบหมายให้เลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งการวินิจฉัยจะต้องทำอย่างละเอียดและถูกต้อง เพื่อไม่ให้มีผลกระทบตามมา
ประธาน ป.ป.ช.มองว่า ในอนาคตจะมีคดีทุจริตมากขึ้น เนื่องจากประชาชนไว้ใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ และมีการแจ้งเบาะแสเข้ามามากขึ้น และการทุจริตจะค่อยๆ ลดลง ทั้งนี้ หวังว่าภายใน 20 ปี การทุจริตจะหมดไป และไม่จำเป็นจะต้องมีหน่วยงาน ป.ป.ช.อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ป.ป.ช. มีคดีเก่าที่ค้างอยู่ 12-13 คดี ซึ่งจะทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี เช่นเดียวกับกรณีการชี้มูลเรื่องเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากหลายหน่วยงาน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา
ประธาน ป.ป.ช.มองว่า ในอนาคตจะมีคดีทุจริตมากขึ้น เนื่องจากประชาชนไว้ใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ และมีการแจ้งเบาะแสเข้ามามากขึ้น และการทุจริตจะค่อยๆ ลดลง ทั้งนี้ หวังว่าภายใน 20 ปี การทุจริตจะหมดไป และไม่จำเป็นจะต้องมีหน่วยงาน ป.ป.ช.อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ป.ป.ช. มีคดีเก่าที่ค้างอยู่ 12-13 คดี ซึ่งจะทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี เช่นเดียวกับกรณีการชี้มูลเรื่องเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากหลายหน่วยงาน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา