พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นกรณีมติชนออนไลน์เผยแพร่บทความทำนองนโยบายให้ข้าราชการออกกำลังกายเป็นการส่งเสริมให้ข้าราชการละทิ้งหน้าที่ของตนไปออกกำลังกายแล้วจะกระทบต่อการดูแลประชาชน ว่า การคิดเช่นนั้น เสมือนการใช้เหตุผลตื้นๆ มองแคบๆ ด้วยใจอคติ ผู้มีสามัญสำนึกปกติคงเข้าใจเจตนารมณ์ได้โดยง่ายว่า รัฐบาลสนับสนุนให้ข้าราชการดูแลสุขภาพตนเองเพื่อมีกำลังกายกำลังใจเต็มร้อยที่จะดูแลพี่น้องประชาชน ดีกว่าทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพเพราะสุขภาพกายใจอ่อนแอ
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าข้าราชการทุกคนเข้าใจจุดมุ่งหมายของรัฐบาล ว่า ต้องการให้ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง มีประสิทธิภาพเต็มร้อย รวมไปถึงประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่จะต้องใช้เพื่อการรักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากโรคไม่ติดต่อ โรคเรื้อรัง ที่เกิดจากพฤติกรรมไม่ดูแลสุขภาพตนเอง ผู้บังคับบัญชาในแต่ละส่วนย่อมทราบและสามารถบริหารได้ว่าจะผสมผสานทั้งการทำงานตามภารกิจเพื่อดูแลพี่น้องประชาชน และการดูแลสุขภาพของข้าราชการในสังกัดเช่นไร จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันอย่างไร หรือกำหนดช่วงเวลาใดจึงจะสอดคล้องเหมาะสมที่สุด
ดังนั้น การที่มติชนพยายามชี้นำว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่หยุดงานนั้น ส่วนตัวเห็นว่าเป็นคำกล่าวที่ไร้สาระ เต็มไปด้วยมุมมองเชิงอคติ เพราะคงไม่มีคุณหมอท่านใดหยุดผ่าตัด หรือสถานีตำรวจไหนปิดสำนักงาน เพื่อมาออกกำลังกาย
จึงอยากให้สื่ออย่างมติชน หรือสื่ออื่นในกลุ่มเดียวกันที่ยังสลัดขั้วการเมืองไม่ออก ยังมีการเลือกข้างสร้างความแตกแยกในสังคม ได้มีสติคิดตรึกตรองว่า ถึงเวลาหรือยังที่ควรจะปรับเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง ปรับปรุงตัวเองให้เป็นสื่อสร้างสรรค์ที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับ มิใช่สื่อที่สังคมมองด้วยสายตาตั้งคำถามถึงจรรยาบรรณในการทำหน้าที่
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าข้าราชการทุกคนเข้าใจจุดมุ่งหมายของรัฐบาล ว่า ต้องการให้ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง มีประสิทธิภาพเต็มร้อย รวมไปถึงประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่จะต้องใช้เพื่อการรักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากโรคไม่ติดต่อ โรคเรื้อรัง ที่เกิดจากพฤติกรรมไม่ดูแลสุขภาพตนเอง ผู้บังคับบัญชาในแต่ละส่วนย่อมทราบและสามารถบริหารได้ว่าจะผสมผสานทั้งการทำงานตามภารกิจเพื่อดูแลพี่น้องประชาชน และการดูแลสุขภาพของข้าราชการในสังกัดเช่นไร จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันอย่างไร หรือกำหนดช่วงเวลาใดจึงจะสอดคล้องเหมาะสมที่สุด
ดังนั้น การที่มติชนพยายามชี้นำว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่หยุดงานนั้น ส่วนตัวเห็นว่าเป็นคำกล่าวที่ไร้สาระ เต็มไปด้วยมุมมองเชิงอคติ เพราะคงไม่มีคุณหมอท่านใดหยุดผ่าตัด หรือสถานีตำรวจไหนปิดสำนักงาน เพื่อมาออกกำลังกาย
จึงอยากให้สื่ออย่างมติชน หรือสื่ออื่นในกลุ่มเดียวกันที่ยังสลัดขั้วการเมืองไม่ออก ยังมีการเลือกข้างสร้างความแตกแยกในสังคม ได้มีสติคิดตรึกตรองว่า ถึงเวลาหรือยังที่ควรจะปรับเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง ปรับปรุงตัวเองให้เป็นสื่อสร้างสรรค์ที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับ มิใช่สื่อที่สังคมมองด้วยสายตาตั้งคำถามถึงจรรยาบรรณในการทำหน้าที่