นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึง กรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเป็นของขวัญปีใหม่ 1,500 - 3,000 บาท ว่า เคยเตือนแล้วเศรษฐกิจปลายปีจะถดถอย แต่รัฐบาลไม่ยอมฟัง และสุดท้ายก็ออกมายอมรับ โดยเริ่มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้ง ๆ ที่เคยบอกว่าไม่จำเป็น แต่การแจกเงินในลักษณะนี้ แม้ว่าจะเป็นความพยายามที่จะช่วยเหลือประชาชนในภาวะลำบาก แต่มองว่าจะไม่ได้เกิดประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจในภาพรวมยังย่ำแย่ การลงทุนหดหาย และการส่งออก ที่เป็นรายได้ของประเทศหายไปมาก
ดังนั้น การจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริง จะต้องแก้ในภาพรวมของทั้งประเทศ มากกว่าการแจกเงินให้กับประชาชน ซึ่งไม่ต่างจากเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ทำไปแล้วสูญเปล่า และมีคำถามว่าเป็นประชานิยมหรือไม่ และทำให้ประเทศเสียหายด้วยหรือไม่ ตลอดจนจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคมมากขึ้น เพราะผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกรไม่ได้รับเงินในส่วนนี้ ทำให้การใช้งบประมาณทั้งหมด 12,759 ล้านบาท เพื่อแจกให้กับประชาชนบางกลุ่มจึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ควรใช้เงินกับโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกภาคส่วนดีกว่า
อย่างไรก็ตาม นายพิชัย ยังตั้งข้อสังเกตว่ากรณีดังกล่าวอาจจะเป็นการหาเสียงของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง เพราะปัจจุบันคะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำลงอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เช่น เรื่องราคาข้าว และราคาสินค้าเกษตรอื่น ๆ จึงทำให้ต้องหาทางออกโดยการแจกเงินเพื่อหวังฟื้นคะแนนนิยม
ดังนั้น การจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริง จะต้องแก้ในภาพรวมของทั้งประเทศ มากกว่าการแจกเงินให้กับประชาชน ซึ่งไม่ต่างจากเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ทำไปแล้วสูญเปล่า และมีคำถามว่าเป็นประชานิยมหรือไม่ และทำให้ประเทศเสียหายด้วยหรือไม่ ตลอดจนจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคมมากขึ้น เพราะผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกรไม่ได้รับเงินในส่วนนี้ ทำให้การใช้งบประมาณทั้งหมด 12,759 ล้านบาท เพื่อแจกให้กับประชาชนบางกลุ่มจึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ควรใช้เงินกับโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกภาคส่วนดีกว่า
อย่างไรก็ตาม นายพิชัย ยังตั้งข้อสังเกตว่ากรณีดังกล่าวอาจจะเป็นการหาเสียงของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง เพราะปัจจุบันคะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำลงอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เช่น เรื่องราคาข้าว และราคาสินค้าเกษตรอื่น ๆ จึงทำให้ต้องหาทางออกโดยการแจกเงินเพื่อหวังฟื้นคะแนนนิยม
