“พิชัย” เย้ย “สมคิด” หมดปัญญาแก้จึงต้องจ้างเวิลด์แบงก์มาเป็นที่ปรึกษา ชี้อันดับความสะดวกการทำธุรกิจไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดของนักลงทุนต่างชาติ แนะรัฐบาลหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเศรษฐกิจก่อนหาทางแก้ไข หากแก้ไม่ได้ก็ควรเปลี่ยนตัว
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ จะจ้างเวิลด์แบงก์มาเป็นที่ปรึกษาในการเพิ่มอันดับความสะดวกในการทำธุรกิจของไทยให้ดีขึ้นเพื่อให้มีการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากการลงทุนจากต่างประเทศลดต่ำมากสุดในรอบ 10 ปี แสดงให้เห็นว่านายสมคิดหมดปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาการลงทุนจากต่างประเทศนี้ได้เองแล้ว และอาจจะเป็นแนวคิดที่หลงทาง เพราะจะเกิดประโยชน์อะไรที่อันดับความสะดวกในการทำธุรกิจของไทยดีขึ้นแต่กลับไม่มีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุน
อย่างเช่นปีนี้อันดับของไทยดีขึ้นมา 3 อันดับ แต่การลงทุนจากต่างประเทศของไทยกลับหายไปเกือบหมด และหลายประเทศในอาเซียนที่มีอันดับความสะดวกในการทำธุรกิจต่ำกว่าไทยมาก เช่น เวียดนาม อันดับที่ 82 อินโดนีเซีย อันดับ 91 ฟิลิปปินส์ อันดับ 99 แต่การลงทุนจากต่างประเทศกลับมีมากกว่าไทยหลายเท่า ดังนั้น อันดับความสะดวกในการทำธุรกิจก็เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด รัฐบาลน่าจะถามนักลงทุนต่างประเทศเลยดีกว่าว่าทำไมถึงไม่ลงทุนและแก้ปัญหาให้ถูกจุด โดยอาจนำปัญหาของไทยที่เวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม ที่จัดอันดับความสามารถแข่งขันของไทยลดลง 2 ปีติดมาพิจารณา รวมถึงปัญหาหลักที่การเมืองของไทยไม่เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศด้วย ถ้านายสมคิดยังควานหาสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงไม่เจอและไปแก้ผิดทางก็จะแก้ปัญหาไม่ได้ เหมือนกับที่รัฐบาลบอกว่าราคาข้าวตกเพราะสื่อกับนักการเมือง รวมไปถึงโรงสีซึ่งไม่ใช่สาเหตุของปัญหาที่แท้จริง ชาวนาถึงได้ลำบากกันขนาดนี้ ดังนั้นจึงอยากให้นายสมคิดตั้งหลักคิดให้ถูกทางก่อนที่ประเทศจะย่ำแย่ไปกว่านี้ หากทำไม่ได้จะทำให้ต้องใช้เวลาแก้ไขฟื้นฟูการลงทุนนี้อีกหลายปี และผลกระทบจากเรื่องไม่มีการลงทุนนี้จะทำให้คนในประเทศลำบากกันอีกนาน
ทั้งนี้ เศรษฐกิจในภาพรวมยังไม่ดีอย่างมากเหมือนที่เคยเตือนแล้ว ความมั่นใจผู้บริโภคกลับมาลดลงอีกครั้งในรอบ 4 เดือน จากราคาข้าวที่ตกต่ำ นักท่องเที่ยวจีนเดือนตุลาคม ลดลงถึง 40% หนี้เสียของระบบธนาคารยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การลงทุนตั้งโรงงานลดลงอีก 24% จากเดิมที่ต่ำอยู่แล้ว ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ลดต่ำลงมาก และการลงทุนในครึ่งปีหลังนี้ก็จะยังต่ำ ทั้งนี้นายสมคิดน่าจะทราบดีว่าคำถาม 6 ข้อที่ได้ถามไปน่าจะสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเข้าไปศึกษาสาเหตุแท้จริงของปัญหาเพื่อให้แก้ปัญหาได้ และหากผู้รับผิดชอบปัจจุบันยังแก้ไม่ได้ก็ควรต้องหาคนอื่นที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไขแทน
