พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับโลกของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 13-19 พฤศจิกายน 2559 ว่า เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของประเทศสมาชิกทั่วโลกที่ได้มีการหยิบยกประเด็นที่หลากหลายมาให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของแต่ละประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานของผู้ตรวจการแผ่นดินแต่ละประเทศให้ทัดเทียมกัน
พล.อ.วิทวัส กล่าวด้วยว่า สำหรับเวทีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ ได้รับทราบถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ไขที่สามารถนำมาเป็นแนวทางขยายโอกาสในการเข้าถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เช่น ประเทศเซอร์เบียที่ได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายเทศบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศในการใช้ห้องสมุดท้องถิ่นเป็นจุดรับเรื่องร้องเรียน ทำให้ชาวเซอร์เบียเข้าถึงผู้ตรวจการแผ่นดินได้มากยิ่งขึ้น หรือประเทศเกาหลีที่พัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียนขององค์กรตรวจสอบทั้งหมดไว้ในระบบเดียวที่เรียกว่า E-People ซึ่งเป็นระบบรับเรื่องร้องเรียนออนไลน์แบบครบวงจรที่ประชาชนสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ถึง 14 ภาษา เนื่องจากต้องการลดความสับสนในการยื่นเรื่องของประชาชนไปยังหลาย ๆ หน่วยงานที่มีบทบาท อำนาจหน้าที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งลดความซ้ำซ้อนในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของหน่วยงานด้วย ซึ่งคล้ายกับประเทศไอร์แลนด์ที่พัฒนาระบบการรับเรื่องเรียนแบบ “One Single Door For Complaints” การรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบเดียวนี้จะลดความสับสน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สะดวกต่อประชาชนที่จะเข้าถึงบริการมากยิ่งขึ้น
ด้านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ได้มีการเลือกตั้งกรรมการฝ่ายบริหารของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (International Ombudsman Institute หรือ IOI) ชุดใหม่ จำนวน 5 คน ซึ่งประกอบด้วย นายปีเตอร์ ทินดัล ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งไอร์แลนด์ ดำรงตำแหน่งประธาน นางไดแอน เวลบอร์น ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเมืองเดย์ตันและมอนท์โกเมอรี มลรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 นายคริส ฟิลด์ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เครือรัฐออสเตรเลีย ดำรงตำแหน่งรองประธานคนที่ 2 นายกึนเธอร์ ครอยเตอร์ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ และ พล.อ.วิทวัส ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเหรัญญิก โดยรับผิดชอบการบริหารจัดการด้านงบประมาณและการเงินของสถาบันฯ ให้เกิดความโปร่งใสและให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด รวมทั้งจะต้องมีส่วนร่วมในการวางแผนยุทธศาสตร์และการปฏิรูป IOI ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ
นายรักษเกชา กล่าวอีกว่า พล.อ.วิทวัส ถือเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินคนแรกของภูมิภาคเอเชียที่ได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมการฝ่ายบริหารของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ นับว่าสร้างเกียรติภูมิให้กับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมนำเสนอข้อคิดเห็น นโยบายที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งนำผลจากการประชุมของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศมาพัฒนาองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งภูมิภาคเอเชียต่อไป
พล.อ.วิทวัส กล่าวด้วยว่า สำหรับเวทีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ ได้รับทราบถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ไขที่สามารถนำมาเป็นแนวทางขยายโอกาสในการเข้าถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เช่น ประเทศเซอร์เบียที่ได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายเทศบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศในการใช้ห้องสมุดท้องถิ่นเป็นจุดรับเรื่องร้องเรียน ทำให้ชาวเซอร์เบียเข้าถึงผู้ตรวจการแผ่นดินได้มากยิ่งขึ้น หรือประเทศเกาหลีที่พัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียนขององค์กรตรวจสอบทั้งหมดไว้ในระบบเดียวที่เรียกว่า E-People ซึ่งเป็นระบบรับเรื่องร้องเรียนออนไลน์แบบครบวงจรที่ประชาชนสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ถึง 14 ภาษา เนื่องจากต้องการลดความสับสนในการยื่นเรื่องของประชาชนไปยังหลาย ๆ หน่วยงานที่มีบทบาท อำนาจหน้าที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งลดความซ้ำซ้อนในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของหน่วยงานด้วย ซึ่งคล้ายกับประเทศไอร์แลนด์ที่พัฒนาระบบการรับเรื่องเรียนแบบ “One Single Door For Complaints” การรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบเดียวนี้จะลดความสับสน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สะดวกต่อประชาชนที่จะเข้าถึงบริการมากยิ่งขึ้น
ด้านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ได้มีการเลือกตั้งกรรมการฝ่ายบริหารของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (International Ombudsman Institute หรือ IOI) ชุดใหม่ จำนวน 5 คน ซึ่งประกอบด้วย นายปีเตอร์ ทินดัล ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งไอร์แลนด์ ดำรงตำแหน่งประธาน นางไดแอน เวลบอร์น ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเมืองเดย์ตันและมอนท์โกเมอรี มลรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 นายคริส ฟิลด์ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เครือรัฐออสเตรเลีย ดำรงตำแหน่งรองประธานคนที่ 2 นายกึนเธอร์ ครอยเตอร์ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ และ พล.อ.วิทวัส ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเหรัญญิก โดยรับผิดชอบการบริหารจัดการด้านงบประมาณและการเงินของสถาบันฯ ให้เกิดความโปร่งใสและให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด รวมทั้งจะต้องมีส่วนร่วมในการวางแผนยุทธศาสตร์และการปฏิรูป IOI ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ
นายรักษเกชา กล่าวอีกว่า พล.อ.วิทวัส ถือเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินคนแรกของภูมิภาคเอเชียที่ได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมการฝ่ายบริหารของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ นับว่าสร้างเกียรติภูมิให้กับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมนำเสนอข้อคิดเห็น นโยบายที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งนำผลจากการประชุมของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศมาพัฒนาองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งภูมิภาคเอเชียต่อไป