พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า วันนี้ตนมาเพื่อตรวจเยี่ยมและกำลังใจการทำงาน โดยตนใช้วิธีแบบทหาร มาเยี่ยมกันโดยไม่ต้องเตือนมาก ไม่ต้องกังวลและเตรียมต้อนรับให้วุ่นวาย และวันนี้ดีใจที่สื่อให้ความสนใจมาเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความสำคัญ เพราะต้องอยู่กับเกษตรกร ดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งประเทศไทยมีเกษตรกรเป็นอาชีพหลัก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้ติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตนพึงพอใจ ถือว่าเดินมาถูกทางตามแผนงานของกระทรวงฯ และนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการปฏิรูป การบริหารระบบราชการต่างๆ การนำเกษตรไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยสนับสนุนระบบดิจิตอลเพื่อพัฒนาไปสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ โดยเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดเป้าหมายว่า แต่ละ 5 ปีมีความก้าวหน้าอย่างไร รวมถึงปัญหาน้ำที่จะทำอย่างไรให้เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐและประชาชน อะไรทำได้ก็ต้องเร่งทำ ในวันนี้หากไม่คิดใหม่ก็จะเป็นแบบเดิม ทั้งปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้ง และเกษตรกรไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นปัญหามายาวนาน จึงต้องเร่งแก้ปัญหาในวันนี้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับเสถียรภาพภายในประเทศที่ทำให้ต่างชาติมีความเข้าใจและเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ ทุกกระทรวงต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และสอดคล้องกันทั้งประเทศในเชิงบริหาร ตนเพียงเป็นรัฐบาล เป็นคนคิดนโยบาย ซึ่งตนเชื่อมั่นในตัว รมว.เกษตรฯ และคณะทำงานทุกคนที่ทำงานอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าทุกคนพอใจที่เห็นแนวทางรัฐบาลเกิดประโยชน์และช่วยเหลือเกษตรกรได้ แต่อาจจะไม่รวดเร็วทันใจ เพราะที่ผ่านมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วันนี้จึงพยายามทำให้เร็วที่สุด แต่ไม่อยากกำหนดกรอบเวลาและหากจะดำเนินการใดๆ ต้องใช้ความสมัครใจ เพื่อดูแลได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่ใช้อำนาจ หรือกฎหมายบังคับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จัดขายข้าวและขอบคุณคนที่ซื้อข้าวช่วยเกษตรกรทั้งประเทศ ซึ่งตนไม่ได้หวังว่าจะขายข้าวได้ทั้งหมดกว่า 16 ล้านตัน เพราะส่วนหนึ่งต้องขายผ่านโรงสีตามวงจรอยู่แล้ว แต่ตนหวังว่าการขายปลีกจะช่วยเกษตรกรเชื่อมโยงกับระบบยึดโยงกับสหกรณ์ให้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีได้ทำอย่างเต็มที่ ขอเพียงแรงใจ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดความขัดแย้งหรือเกษตรกรมีรายได้น้อยลง แต่ทำยังไงให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "กระทรวงเกษตรฯ มาถูกทางแล้ว ผมแฮปปี้ทุกกระทรวง มีอะไรอย่าว่ารัฐมนตรี ให้มาว่าผม เพราะผมเป็นคนบริหาร แต่อย่าว่ามากแล้วกัน"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้ติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตนพึงพอใจ ถือว่าเดินมาถูกทางตามแผนงานของกระทรวงฯ และนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการปฏิรูป การบริหารระบบราชการต่างๆ การนำเกษตรไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยสนับสนุนระบบดิจิตอลเพื่อพัฒนาไปสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ โดยเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดเป้าหมายว่า แต่ละ 5 ปีมีความก้าวหน้าอย่างไร รวมถึงปัญหาน้ำที่จะทำอย่างไรให้เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐและประชาชน อะไรทำได้ก็ต้องเร่งทำ ในวันนี้หากไม่คิดใหม่ก็จะเป็นแบบเดิม ทั้งปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้ง และเกษตรกรไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นปัญหามายาวนาน จึงต้องเร่งแก้ปัญหาในวันนี้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับเสถียรภาพภายในประเทศที่ทำให้ต่างชาติมีความเข้าใจและเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ ทุกกระทรวงต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และสอดคล้องกันทั้งประเทศในเชิงบริหาร ตนเพียงเป็นรัฐบาล เป็นคนคิดนโยบาย ซึ่งตนเชื่อมั่นในตัว รมว.เกษตรฯ และคณะทำงานทุกคนที่ทำงานอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าทุกคนพอใจที่เห็นแนวทางรัฐบาลเกิดประโยชน์และช่วยเหลือเกษตรกรได้ แต่อาจจะไม่รวดเร็วทันใจ เพราะที่ผ่านมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วันนี้จึงพยายามทำให้เร็วที่สุด แต่ไม่อยากกำหนดกรอบเวลาและหากจะดำเนินการใดๆ ต้องใช้ความสมัครใจ เพื่อดูแลได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่ใช้อำนาจ หรือกฎหมายบังคับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จัดขายข้าวและขอบคุณคนที่ซื้อข้าวช่วยเกษตรกรทั้งประเทศ ซึ่งตนไม่ได้หวังว่าจะขายข้าวได้ทั้งหมดกว่า 16 ล้านตัน เพราะส่วนหนึ่งต้องขายผ่านโรงสีตามวงจรอยู่แล้ว แต่ตนหวังว่าการขายปลีกจะช่วยเกษตรกรเชื่อมโยงกับระบบยึดโยงกับสหกรณ์ให้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีได้ทำอย่างเต็มที่ ขอเพียงแรงใจ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดความขัดแย้งหรือเกษตรกรมีรายได้น้อยลง แต่ทำยังไงให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "กระทรวงเกษตรฯ มาถูกทางแล้ว ผมแฮปปี้ทุกกระทรวง มีอะไรอย่าว่ารัฐมนตรี ให้มาว่าผม เพราะผมเป็นคนบริหาร แต่อย่าว่ามากแล้วกัน"