นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า จากผลการศึกษาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มในประเทศเวียดนาม พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่มของเวียดนามมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจำนวนโรงงานและคุณภาพมาตรฐานการผลิต เนื่องจากมีการลงทุนด้านเครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตใหม่มีการนำเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ตลอดสายการผลิต รวมทั้งการพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการจะเข้าไปขยายธุรกิจตลาดส่งออกอาหารและเครื่องดื่มในเวียดนาม
สำหรับกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการควรดำเนินการ เพื่อเข้าสู่ตลาดเวียดนามมี 4 ด้าน คือ 1.กลยุทธ์ด้านการผลิต ผู้ประกอบการควรควบคุมและบริหารต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 2.กลยุทธ์ด้านการตลาด ผู้ประกอบการควรค้นสินค้าที่ยังไม่มีในตลาด หรือมีแล้ว แต่สินค้าไทยดีกว่า มีจุดเด่น ขายในราคาที่มีมูลค่าสูง หรือระดับพรีเมี่ยม 3.กลยุทธ์ด้านการกระจายสินค้า ต้องทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละพื้นที่
ดังนั้นจึงต้องค้นหาผู้กระจายสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละพื้นที่ และ 4.กลยุทธ์ด้านการเตรียมความพร้อม ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าในวัฒนธรรม รสนิยม และพฤติกรรมบริโภคที่แตกต่างจากคนไทย และเตรียมความพร้อมทีมงานด้วยการพัฒนาทักษะที่จำเป็น ความเข้าใจด้านการทำธุรกรรมการเงิน ความเสี่ยงจากค่าเงินที่ผันผวนกฎระเบียบทางการค้า กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาษาเวียดนามพื้นฐาน เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการควรดำเนินการ เพื่อเข้าสู่ตลาดเวียดนามมี 4 ด้าน คือ 1.กลยุทธ์ด้านการผลิต ผู้ประกอบการควรควบคุมและบริหารต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 2.กลยุทธ์ด้านการตลาด ผู้ประกอบการควรค้นสินค้าที่ยังไม่มีในตลาด หรือมีแล้ว แต่สินค้าไทยดีกว่า มีจุดเด่น ขายในราคาที่มีมูลค่าสูง หรือระดับพรีเมี่ยม 3.กลยุทธ์ด้านการกระจายสินค้า ต้องทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละพื้นที่
ดังนั้นจึงต้องค้นหาผู้กระจายสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละพื้นที่ และ 4.กลยุทธ์ด้านการเตรียมความพร้อม ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าในวัฒนธรรม รสนิยม และพฤติกรรมบริโภคที่แตกต่างจากคนไทย และเตรียมความพร้อมทีมงานด้วยการพัฒนาทักษะที่จำเป็น ความเข้าใจด้านการทำธุรกรรมการเงิน ความเสี่ยงจากค่าเงินที่ผันผวนกฎระเบียบทางการค้า กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาษาเวียดนามพื้นฐาน เป็นต้น