พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานข้อมูลที่จะอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางร่วมแสดงความอาลัยถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และหารือถึงการบริหารราชการแผ่นดิน โดยในวันอังคารที่ 18 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ เพราะการบริหารราชการแผ่นดิน การค้า การลงทุนยังเดินต่อไป โดยไม่มีสุญญากาศ แม้อยู่ในช่วงวิปโยคอาลัยของคนไทยทั้งชาติ แต่ต้องไม่ลืมคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ว่า ประชาชนต้องไม่ลืมหน้าที่ ต้องทำหน้าที่สมบูรณ์อย่างเต็มกำลัง เพื่อพัฒนาประเทศต่อไป ดังนั้น การบริหารราชการแผ่นดินต้องควบคู่กับพระราชพิธีพระบรมศพ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากเน้นย้ำให้ส่วนราชการทราบว่า เราทุกคนเสียใจได้ แต่ต้องไม่ลืมหน้าที่ เสียใจได้แต่ต้องมีความหวัง อย่าเสียพลังความรักศรัทธาที่มีต่อประเทศชาติ
ส่วนกรณีมีข่าวลือในโซเชียลเรื่องการสั่งให้ปลดและห้ามประดับพระบรมฉายาลักษ์นั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีการสั่งการอย่างนั้น ทั้งในหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งบ้านของประชาชน เพราะยิ่งในช่วงที่พระองค์เสด็จสวรรคต ถือเป็นเวลาอันควรอย่างยิ่งที่จะประดับพระบรมฉายาลักษณ์ แต่ต้องเหมาะสม คือฉลองพระองค์เต็มยศ และอยากให้ความสำคัญในการประดับผ้าแพรสีดำ-ขาวให้ถูกต้องตามที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประกาศไปแล้ว หากหน่วยงานใดเข้าใจผิดต้องดำเนินการให้ถูกต้องโดยเร็ว เพราะส่งผลต่อจิตใจประชาชนทั้งชาติ
รวมถึงการสวมใส่เสื้อผ้าแสดงไว้ความทุกข์และอาลัย มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้บางคนหาเสื้อผ้าดำหรือขาวล้วนยาก จึงขอให้มองเจตนาที่จะร่วมถวายอาลัย และเลือกเสื้อสีพื้นไม่ฉูดฉาด ไม่มีดอก และประดับริบบิ้นสีขาวหรือดำตามที่เห็นว่าเหมาะสม จึงขอสังคมอย่าไปเพ่งพิจารณาว่าคนเหล่านี้ไม่แสดงความอาลัย
ส่วนธงตราสัญลักษณ์ เป็นธงที่ใช้เมื่อครั้งเฉลิมฉลองตอนยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ จึงต้องนำลง เพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่พระองค์ท่าน จึงขอให้ทุกคนเข้าใจ
ขณะเดียวกัน พล.ท.สรรเสริญ ยืนยันด้วยว่า เวลานี้โรดแมปและการเลือกตั้งยังคงเป็นไปตามโรดแมปเดิม ซึ่งได้ถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาประการใด รวมถึงเรื่องกฎหมายที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ก็ยังเดินหน้าตามที่วางกรอบไว้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากเน้นย้ำให้ส่วนราชการทราบว่า เราทุกคนเสียใจได้ แต่ต้องไม่ลืมหน้าที่ เสียใจได้แต่ต้องมีความหวัง อย่าเสียพลังความรักศรัทธาที่มีต่อประเทศชาติ
ส่วนกรณีมีข่าวลือในโซเชียลเรื่องการสั่งให้ปลดและห้ามประดับพระบรมฉายาลักษ์นั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีการสั่งการอย่างนั้น ทั้งในหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งบ้านของประชาชน เพราะยิ่งในช่วงที่พระองค์เสด็จสวรรคต ถือเป็นเวลาอันควรอย่างยิ่งที่จะประดับพระบรมฉายาลักษณ์ แต่ต้องเหมาะสม คือฉลองพระองค์เต็มยศ และอยากให้ความสำคัญในการประดับผ้าแพรสีดำ-ขาวให้ถูกต้องตามที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประกาศไปแล้ว หากหน่วยงานใดเข้าใจผิดต้องดำเนินการให้ถูกต้องโดยเร็ว เพราะส่งผลต่อจิตใจประชาชนทั้งชาติ
รวมถึงการสวมใส่เสื้อผ้าแสดงไว้ความทุกข์และอาลัย มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้บางคนหาเสื้อผ้าดำหรือขาวล้วนยาก จึงขอให้มองเจตนาที่จะร่วมถวายอาลัย และเลือกเสื้อสีพื้นไม่ฉูดฉาด ไม่มีดอก และประดับริบบิ้นสีขาวหรือดำตามที่เห็นว่าเหมาะสม จึงขอสังคมอย่าไปเพ่งพิจารณาว่าคนเหล่านี้ไม่แสดงความอาลัย
ส่วนธงตราสัญลักษณ์ เป็นธงที่ใช้เมื่อครั้งเฉลิมฉลองตอนยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ จึงต้องนำลง เพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่พระองค์ท่าน จึงขอให้ทุกคนเข้าใจ
ขณะเดียวกัน พล.ท.สรรเสริญ ยืนยันด้วยว่า เวลานี้โรดแมปและการเลือกตั้งยังคงเป็นไปตามโรดแมปเดิม ซึ่งได้ถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาประการใด รวมถึงเรื่องกฎหมายที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ก็ยังเดินหน้าตามที่วางกรอบไว้