นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ว่า สำนักงาน ป.ป.ท.ทุกเขตพื้นที่ได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีทุจริตรับจำนำข้าวครบถ้วนทุกพื้นที่ทั่วประเทศแล้ว รวมทั้งสิ้น 853 สำนวน ล่าสุด บอร์ด ป.ป.ท.ได้อนุมัติตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดแล้ว ซึ่งตามกฎหมายจะต้องตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดเป็นรายคดี เนื่องจากเป็นการกระทำผิดส่วนบุคคลที่มีพื้นที่เกิดเหตุ กระจายอยู่ในหลายจังหวัด
ทั้งนี้ ป.ป.ท.ยังตั้งเป้าที่จะเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 6 เดือน เพื่อไม่ให้กระทบต่อคดีสำคัญอื่นๆ ที่ค้างการตรวจสอบอยู่เป็นจำนวนมาก
เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวต่อว่า สำหรับการไต่สวนของ ป.ป.ท.จะครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) องค์การคลังสินค้า (อ.ค.ส.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดหรือเอื้อประโยชน์ให้เอกชน โดยสร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างมหาศาล โดยข้อมูลจากการตรวจสอบของป.ป.ท.พบมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการดังกล่าวจำนวน 33 จังหวัด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ
นายประยงค์ ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน.ศอตช. ได้นัดประชุมวาระปกติ เพื่อติดตามการตรวจสอบคดีทุจริตทั่วๆ ไปในความรับผิดชอบของหน่วยตรวจสอบและองค์กรอิสระต่างๆ ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ เวลา 09.30 น. ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ ศอตช.ตรวจสอบความรับผิดทางละเมิด เพื่อหาตัวเจ้าหน้าที่รัฐผู้ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวร้อยละ 80 นั้น หลังจากเลื่อนการประชุมในวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ออกไป จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้นัดประชุมเพื่อเริ่มต้นการตรวจสอบ
ทั้งนี้ ป.ป.ท.ยังตั้งเป้าที่จะเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 6 เดือน เพื่อไม่ให้กระทบต่อคดีสำคัญอื่นๆ ที่ค้างการตรวจสอบอยู่เป็นจำนวนมาก
เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวต่อว่า สำหรับการไต่สวนของ ป.ป.ท.จะครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) องค์การคลังสินค้า (อ.ค.ส.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดหรือเอื้อประโยชน์ให้เอกชน โดยสร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างมหาศาล โดยข้อมูลจากการตรวจสอบของป.ป.ท.พบมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการดังกล่าวจำนวน 33 จังหวัด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ
นายประยงค์ ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน.ศอตช. ได้นัดประชุมวาระปกติ เพื่อติดตามการตรวจสอบคดีทุจริตทั่วๆ ไปในความรับผิดชอบของหน่วยตรวจสอบและองค์กรอิสระต่างๆ ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ เวลา 09.30 น. ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ ศอตช.ตรวจสอบความรับผิดทางละเมิด เพื่อหาตัวเจ้าหน้าที่รัฐผู้ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวร้อยละ 80 นั้น หลังจากเลื่อนการประชุมในวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ออกไป จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้นัดประชุมเพื่อเริ่มต้นการตรวจสอบ