พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 29 มีเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลาม 261 คน และที่นับถือศาสนาพุทธ จำนวน 57คน เข้าร่วมโครงการ มี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารอาการ นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้าร่วมงาน
พล.อ.เปรม ให้โอวาทกับเยาวชนที่ร่วมโครงการตอนหนึ่ง ว่า วันนี้ขอเริ่มต้นด้วยการขอบคุณ และชมเชยผู้ที่ให้การสนับสนุน และช่วยเหลือโครงการนี้ หากสังเกตดูจะเห็นว่า กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ มีผู้แทนระดับสูงมาร่วมด้วย ถือเป็นนิมิตรหมายว่า เราทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ขอบคุณทุกคนที่เมตตา ช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือ และขอขอบคุณ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานโครงการสานใจไทยฯ ที่ได้พัฒนาโครงการไปมาก เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า
พล.อ.เปรม กล่าวว่า ต้องการให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นคนไทย ที่นับถือศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม และศาสราคริสต์ ห้มีความรัก มอบความรักให้แก่กันและกัน รู้จักกัน ร่วมมือร่วมใจทำงาน และเป็นคนดีของชาติบ้านเมือง
พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า ขอให้รู้ตัวเองว่า เราเป็นสมบัติอันมีค่าของชาติ ทุกคนเป็นเจ้าของประเทศนี้ มีสิทธิเท่าเทียมกัน เมื่อเป็นเจ้าของประเทศ ก็ต้องมีหน้าที่ดูแลประเทศ ให้เจริญก้าวหน้า มีความรัก ความสามัคคีกัน ขอให้ตั้งใจมารับความรู้ในสิ่งที่มีค่าของบ้านเมือง เพราะความรักความสามัคคีป็นสิ่งสำคัญ ที่เราจะต้องรักษาไว้ให้ได้ ขอให้ช่วยกัน ร่วมมือกัน รักกัน ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เพราะทุกคนล้วนเป็นคนไทย ขอให้ทำเพื่อให้ประเทศไทยมีแต่ความรัก ความสามัคคี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมปรารถนาอยากเห็น
พล.อ.เปรม ให้โอวาทกับเยาวชนที่ร่วมโครงการตอนหนึ่ง ว่า วันนี้ขอเริ่มต้นด้วยการขอบคุณ และชมเชยผู้ที่ให้การสนับสนุน และช่วยเหลือโครงการนี้ หากสังเกตดูจะเห็นว่า กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ มีผู้แทนระดับสูงมาร่วมด้วย ถือเป็นนิมิตรหมายว่า เราทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ขอบคุณทุกคนที่เมตตา ช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือ และขอขอบคุณ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานโครงการสานใจไทยฯ ที่ได้พัฒนาโครงการไปมาก เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า
พล.อ.เปรม กล่าวว่า ต้องการให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นคนไทย ที่นับถือศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม และศาสราคริสต์ ห้มีความรัก มอบความรักให้แก่กันและกัน รู้จักกัน ร่วมมือร่วมใจทำงาน และเป็นคนดีของชาติบ้านเมือง
พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า ขอให้รู้ตัวเองว่า เราเป็นสมบัติอันมีค่าของชาติ ทุกคนเป็นเจ้าของประเทศนี้ มีสิทธิเท่าเทียมกัน เมื่อเป็นเจ้าของประเทศ ก็ต้องมีหน้าที่ดูแลประเทศ ให้เจริญก้าวหน้า มีความรัก ความสามัคคีกัน ขอให้ตั้งใจมารับความรู้ในสิ่งที่มีค่าของบ้านเมือง เพราะความรักความสามัคคีป็นสิ่งสำคัญ ที่เราจะต้องรักษาไว้ให้ได้ ขอให้ช่วยกัน ร่วมมือกัน รักกัน ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เพราะทุกคนล้วนเป็นคนไทย ขอให้ทำเพื่อให้ประเทศไทยมีแต่ความรัก ความสามัคคี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมปรารถนาอยากเห็น