นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำใน 2 อำเภอ คือที่ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด วัดโบสถ์ล่าง อำเภอเสนา และประตูระบายน้ำลาดชะโด อำเภอผักไห่ หลังพบว่าอำเภอเสนา มีพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบมากที่สุด รวม 9 ตำบล 67 หมู่บ้าน 5,197 ครัวเรือน ขณะที่อำเภอผักไห่ รวม 10 ตำบล 57 หมู่บ้าน 1,762 ครัวเรือน แต่ยังไม่ประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วันแรกของการเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รู้สึกเป็นห่วงพี่น้องประชาชนทั้ง 7 อำเภอที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง จึงกำชับให้ชลประทานประเมินสถานการณ์หรือปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการน้ำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์มากที่สุด หรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วันแรกของการเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รู้สึกเป็นห่วงพี่น้องประชาชนทั้ง 7 อำเภอที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง จึงกำชับให้ชลประทานประเมินสถานการณ์หรือปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการน้ำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์มากที่สุด หรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแล้ว