นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือ และภาคกลาง ประกอบกับมีปริมาณน้ำจากฝนตกสะสม ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และน้ำเอ่อล้นตลิ่งใน 12 จังหวัด รวม 33 อำเภอ 137 ตำบล 738 หมู่บ้าน แยกเป็นภาคกลาง 7 จังหวัด ได้แก่ จ.สิงห์บุรี อ่างทองพระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี ลพบุรี นครสวรรค์ และชัยนาท ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์และสุโขทัย ภาคใต้ 1 จังหวัด 1 อำเภอ 6 ตำบล 20 หมู่บ้าน ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมประสานการระบายน้ำกับหน่วยชลประทานในพื้นที่ รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ชุมชนเขตเศรษฐกิจ เพื่อสูบน้ำที่ท่วมขังไปยังพื้นที่รองรับน้ำ อีกทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย รวมทั้งเร่งซ่อมแซมสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณะประโยชน์ให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง