โฆษกใหญ่รัฐบาลญี่ปุ่นออกมากล่าวเตือนจีนในวันจันทร์ (26 ก.ย.) อย่าได้ขยายกิจกรรมทางทหารไปยังน่านฟ้าเหนือหมู่เกาะที่สองประเทศพิพาทช่วงชิงกันในทะเลจีนตะวันออก ภายหลังเมื่อวันอาทิตย์ (25) แดนอาทิตย์อุทัยได้ส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นฟ้า เพื่อติดตามฝูงอากาศยานทหารของจีนซึ่งบินเฉียดใกล้บริเวณดังกล่าว โดยที่โฆษกของแดนมังกรระบุว่า ฝูงเครื่องบินรบของตนนี้มีจำนวนกว่า 40 ลำ และเคลื่อนที่ผ่านช่องแคบระหว่างหมู่เกาะของญี่ปุ่น ตามเส้นทางการฝึกบินในแปซิฟิกตะวันตก
โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหัวหน้าโฆษกของรัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยโดยตำแหน่ง แถลงที่กรุงโตเกียวในวันจันทร์ (26) ว่า ญี่ปุ่นได้เร่งส่งเครื่องบินขับไล่อย่างน้อย 1 ลำขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังจากฝูงเครื่องบินทหารของจีนได้บินผ่านเหนือช่องแคบมิยาโกะ ระหว่างหมู่เกาะโอกินาวะ กับหมู่เกาะมิยาโกะ เมื่อวันอาทิตย์ (25) ช่องแคบนี้อยู่ใกล้ๆ ทางด้านตะวันออกของหมู่เกาะเซงกากุ ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งญี่ปุ่นครอบครองอยู่ แต่จีนที่เรียกชื่อหมู่เกาะเล็กๆ ซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยแห่งนี้ว่าเตี้ยวอี๋ว์ ก็อ้างกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของตนเช่นกัน
ซูงะแถลงว่า ฝูงเครื่องบินของจีนดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่ามีด้วยกัน 8 ลำ โดยเป็นเครื่องบินขับไล่ 2 ลำ, เครื่องบินทิ้งระเบิด 4 ลำ, และเครื่องบินตรวจการณ์ 2 ลำ ไม่ได้ล่วงละเมิดน่านฟ้าของญี่ปุ่นในเที่ยวบินที่มีลักษณะบินไปกลับทางไกลคราวนี้ แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่อากาศยานทหารของจีนบินในเส้นทางนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (25) เสิ่น จินเคอ โฆษกกองทัพอากาศจีนได้ออกคำแถลงโพสต์อยู่บนเว็บไซต์กระทรวงกลาโหมแดนมังกรระบุว่า เครื่องบินรบของจีนจำนวนกว่า 40 ลำซึ่งมีทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด, เครื่องบินขับไล่แบบ ซู-30, ตลอดจนเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศด้วย ได้บินผ่านช่องแคบมิยาโกะ ตามเส้นทางฝึกบินในย่านแปซิฟิกตะวันตก
คำแถลงนี้บอกว่า การฝึกบินระยะทางไกลในแปซิฟิกตะวันตก และการออกตรวจการณ์เหนือเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ในทะเลจีนตะวันออก อย่างเป็นประจำสม่ำเสมอเช่นนี้ ก็เพื่อให้กองทัพอากาศสามารถพิทักษ์ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงแห่งชาติของจีน
ทั้งนี้ จีนได้ประกาศเขต ADIZ ในทะเลจีนตะวันออกเมื่อปี 2013 ซึ่งกำหนดให้เครื่องบินใดๆ ที่บินเข้ามาต้องแสดงตนเองต่อทางการผู้รับผิดชอบของแดนมังกร ทว่าญี่ปุ่นกับสหรัฐฯได้ประณามคัดค้านไม่ยอมรับ ถึงแม้ประเทศทั้งสองก็มีการประกาศ ADIZ ของตนเองเช่นเดียวกัน
โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหัวหน้าโฆษกของรัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยโดยตำแหน่ง แถลงที่กรุงโตเกียวในวันจันทร์ (26) ว่า ญี่ปุ่นได้เร่งส่งเครื่องบินขับไล่อย่างน้อย 1 ลำขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังจากฝูงเครื่องบินทหารของจีนได้บินผ่านเหนือช่องแคบมิยาโกะ ระหว่างหมู่เกาะโอกินาวะ กับหมู่เกาะมิยาโกะ เมื่อวันอาทิตย์ (25) ช่องแคบนี้อยู่ใกล้ๆ ทางด้านตะวันออกของหมู่เกาะเซงกากุ ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งญี่ปุ่นครอบครองอยู่ แต่จีนที่เรียกชื่อหมู่เกาะเล็กๆ ซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยแห่งนี้ว่าเตี้ยวอี๋ว์ ก็อ้างกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของตนเช่นกัน
ซูงะแถลงว่า ฝูงเครื่องบินของจีนดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่ามีด้วยกัน 8 ลำ โดยเป็นเครื่องบินขับไล่ 2 ลำ, เครื่องบินทิ้งระเบิด 4 ลำ, และเครื่องบินตรวจการณ์ 2 ลำ ไม่ได้ล่วงละเมิดน่านฟ้าของญี่ปุ่นในเที่ยวบินที่มีลักษณะบินไปกลับทางไกลคราวนี้ แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่อากาศยานทหารของจีนบินในเส้นทางนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (25) เสิ่น จินเคอ โฆษกกองทัพอากาศจีนได้ออกคำแถลงโพสต์อยู่บนเว็บไซต์กระทรวงกลาโหมแดนมังกรระบุว่า เครื่องบินรบของจีนจำนวนกว่า 40 ลำซึ่งมีทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด, เครื่องบินขับไล่แบบ ซู-30, ตลอดจนเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศด้วย ได้บินผ่านช่องแคบมิยาโกะ ตามเส้นทางฝึกบินในย่านแปซิฟิกตะวันตก
คำแถลงนี้บอกว่า การฝึกบินระยะทางไกลในแปซิฟิกตะวันตก และการออกตรวจการณ์เหนือเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ในทะเลจีนตะวันออก อย่างเป็นประจำสม่ำเสมอเช่นนี้ ก็เพื่อให้กองทัพอากาศสามารถพิทักษ์ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงแห่งชาติของจีน
ทั้งนี้ จีนได้ประกาศเขต ADIZ ในทะเลจีนตะวันออกเมื่อปี 2013 ซึ่งกำหนดให้เครื่องบินใดๆ ที่บินเข้ามาต้องแสดงตนเองต่อทางการผู้รับผิดชอบของแดนมังกร ทว่าญี่ปุ่นกับสหรัฐฯได้ประณามคัดค้านไม่ยอมรับ ถึงแม้ประเทศทั้งสองก็มีการประกาศ ADIZ ของตนเองเช่นเดียวกัน