นายวิทยา ยาม่วง ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 เป็นประธานการประชุมเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 ในพื้นที่รับผิดชอบโดยมี นายนิวัธน ชิดเชิดวงศ์ เจ้าท่าพระนครศรีอยุธยา นายสมเกียรติ โกสีย์ไกรนิรมล เจ้าท่านนทบุรี นายสมพงษ์ เพชรนาค เจ้าท่าสุพรรณบุรี น.ส.ภาวินี ผูกจิตต์ ตัวแทนเจ้าท่าลพบุรี เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นทางน้ำ และการวางแนวทางในการเข้มงวดกับผู้ประกอบการเดินเรือทุกชนิด รวมถึงการตรวจสอบสิ่งร่วมลำน้ำต่างๆ ในแม่น้ำป่าสัก ลพบุรี และเจ้าพระยา ซึ่งจะมีการตรวจสอบอย่างจริงจังหลังจากได้มีการให้แนวทางไปแล้ว
นายวิทยา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เรือล่มที่เกิดขึ้นนับเป็นบทเรียนที่สำนักงานเจ้าท่าในแต่ละเขตต้องตระหนักในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ทางกรมเจ้าท่าได้สั่งการในเรื่องของการสำรวจสิ่งร่วมน้ำทั้งหมดตั้งแต่ จังหวัดนนทบุรี การประชุมผู้ประกอบการช่าวเรือทั้งหมด ก่อนการประชุมเจ้าหน้าที่จะไปตรวจเรือโดยสาร 71 ลำ ว่ามีความปลอดภัยแค่ไหน ซึ่งจะทำเสร็จก่อนการประชุมในสับดาห์หน้า นอกจากนั้นยังต้องดูเรื่องเรือสินค้า ซึ่งอาจจะกีดขวางร่องน้ำ ต้องมีการเรียกผู้ประกอบการมาหารือ
สำหรับเรือรอบเกาะจากหน้าพระราชวังจันทรเกษม ได้กำชับแล้วว่าต้องให้ผู้โดยสารใส่เชื้อชูชีพ หากไม่ปฏิบัติก็จะพักใช้ใบอนุญาต ส่วนเรือร้านอาหารก็จะเน้นเรื่องผู้โดยสารเกิน และต้องติดป้ายจำนวนคนไม่เกิน หลังการประชุมจะต้องออกไปตรวจตราปราบปราบเรื่องที่ฝ่าฝืน ซึ่งถ้าเป็นเรือโดยสารต้องเตรียมเสื้อชูชีพพร้อมใจ และการตรวจสอบหากเรือไม่พร้อมก็จะไม่อนุญาต
นายวิทยา กล่าวอีกว่า จะใช้กล้องซีซีวีดีจับภาพริมแม่น้ำบริเวณป้อมเพชร โดยสามารถดูผ่านโทรศัพท์มือถือตลอด 24 ช.ม.เพื่อดูว่ามีเรือกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ที่ผ่านมาเจ้าท่าก็เข้มงวดมาตลอดอยู่แล้ว ทางเจ้าท่าจะเรียกผู้ควบคุมเรื่อทั้งหมดมาอบรมใหม่ โดยจะเน้นการอบรม เรือต้องปลอดภัย ท่าเรือต้องปลอดภัย อู่เรื่อต้องปลอดภัย คนประจำเรือต้องมาตราฐาน ในเรื่องสถานที่เกิดเหตุได้ให้เจ้าท่าไปตรวจเรื่องเขื่อนหน้าวัดสนามไชยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานสรุป ส่วนเรื่องการสอบสวนพนักงานอยู่ระหว่างการสอบสวน ตอนนี้ทางเจ้าท่าได้เน้นย้ำในการเยี่ยวยาผู้บาดเจ็บ ญาติผู้เสียชีวิต โดยตลอดทั้งสับดาห์หน้าก็จะลงพื้นที่ตรวจเรือทุกชนิดด้วย
นายวิทยา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เรือล่มที่เกิดขึ้นนับเป็นบทเรียนที่สำนักงานเจ้าท่าในแต่ละเขตต้องตระหนักในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ทางกรมเจ้าท่าได้สั่งการในเรื่องของการสำรวจสิ่งร่วมน้ำทั้งหมดตั้งแต่ จังหวัดนนทบุรี การประชุมผู้ประกอบการช่าวเรือทั้งหมด ก่อนการประชุมเจ้าหน้าที่จะไปตรวจเรือโดยสาร 71 ลำ ว่ามีความปลอดภัยแค่ไหน ซึ่งจะทำเสร็จก่อนการประชุมในสับดาห์หน้า นอกจากนั้นยังต้องดูเรื่องเรือสินค้า ซึ่งอาจจะกีดขวางร่องน้ำ ต้องมีการเรียกผู้ประกอบการมาหารือ
สำหรับเรือรอบเกาะจากหน้าพระราชวังจันทรเกษม ได้กำชับแล้วว่าต้องให้ผู้โดยสารใส่เชื้อชูชีพ หากไม่ปฏิบัติก็จะพักใช้ใบอนุญาต ส่วนเรือร้านอาหารก็จะเน้นเรื่องผู้โดยสารเกิน และต้องติดป้ายจำนวนคนไม่เกิน หลังการประชุมจะต้องออกไปตรวจตราปราบปราบเรื่องที่ฝ่าฝืน ซึ่งถ้าเป็นเรือโดยสารต้องเตรียมเสื้อชูชีพพร้อมใจ และการตรวจสอบหากเรือไม่พร้อมก็จะไม่อนุญาต
นายวิทยา กล่าวอีกว่า จะใช้กล้องซีซีวีดีจับภาพริมแม่น้ำบริเวณป้อมเพชร โดยสามารถดูผ่านโทรศัพท์มือถือตลอด 24 ช.ม.เพื่อดูว่ามีเรือกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ที่ผ่านมาเจ้าท่าก็เข้มงวดมาตลอดอยู่แล้ว ทางเจ้าท่าจะเรียกผู้ควบคุมเรื่อทั้งหมดมาอบรมใหม่ โดยจะเน้นการอบรม เรือต้องปลอดภัย ท่าเรือต้องปลอดภัย อู่เรื่อต้องปลอดภัย คนประจำเรือต้องมาตราฐาน ในเรื่องสถานที่เกิดเหตุได้ให้เจ้าท่าไปตรวจเรื่องเขื่อนหน้าวัดสนามไชยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานสรุป ส่วนเรื่องการสอบสวนพนักงานอยู่ระหว่างการสอบสวน ตอนนี้ทางเจ้าท่าได้เน้นย้ำในการเยี่ยวยาผู้บาดเจ็บ ญาติผู้เสียชีวิต โดยตลอดทั้งสับดาห์หน้าก็จะลงพื้นที่ตรวจเรือทุกชนิดด้วย