นายกำซานี มะเร๊ะ หัวหน้างานประชาสัมพันธ์เขื่อนบางลาง เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนบางลาง ว่า ขณะนี้ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต โดยปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือเพียง 427. 94 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุอ่างเก็บน้ำ 1,420 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 29 และมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้ 151.66 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 13 ซึ่งถือว่าน้ำในเขื่อนมีปริมาณน้อยที่สุดในรอบ 35 ปี ตั้งแต่มีการก่อสร้างเขื่อน
การแก้ปัญหาเบื้องต้น เขื่อนได้ลดปริมาณการระบายน้ำจากวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือเพียง 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังคงเพียงพอต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า และไม่กระทบต่อการใช้น้ำของเกษตรกรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ปัตตานี และยะลา
ส่วนที่ประชุมคณะกรรมการติดตามดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ปริมาณน้ำเขื่อนบางลาง ที่มี พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธาน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานกับทางการมาเลเซียในการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่องและเร่งด่วน เพื่อไม่ให้กระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการฝนหลวงต้องขึ้นอยู่กับกระแสลมและความชื้นในอากาศด้วย ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอีกไม่เกิน 1 เดือน จะมีฝนตกลงมาและทำให้สถานการณ์น้ำในเขื่อนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่หากภายในอีก 60 วัน หลังจากนี้ ยังไม่มีฝนตกจะทำให้สถานการณ์น้ำในเขื่อนอยู่ในภาวะวิกฤต
การแก้ปัญหาเบื้องต้น เขื่อนได้ลดปริมาณการระบายน้ำจากวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือเพียง 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังคงเพียงพอต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า และไม่กระทบต่อการใช้น้ำของเกษตรกรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ปัตตานี และยะลา
ส่วนที่ประชุมคณะกรรมการติดตามดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ปริมาณน้ำเขื่อนบางลาง ที่มี พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธาน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานกับทางการมาเลเซียในการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่องและเร่งด่วน เพื่อไม่ให้กระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการฝนหลวงต้องขึ้นอยู่กับกระแสลมและความชื้นในอากาศด้วย ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอีกไม่เกิน 1 เดือน จะมีฝนตกลงมาและทำให้สถานการณ์น้ำในเขื่อนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่หากภายในอีก 60 วัน หลังจากนี้ ยังไม่มีฝนตกจะทำให้สถานการณ์น้ำในเขื่อนอยู่ในภาวะวิกฤต