พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังรับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ – ยุทธศาสตร์ทหาร ในระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ว่า การวางยุทธศาสตร์ในระยะ 20 ปีถือเป็นสิ่งที่ดี ที่จะทำให้เห็นแนวทางการพัฒนาในอนาคต แต่ปัญหาที่ทุกคนจะต้องช่วยกันคิด คือจะทำอย่างไรเพื่อจะนำไปสู่การปฏิบัติ และให้เกิดการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ที่ได้มีการตั้งเป้าไว้
ทั้งนี้ สาระสำคัญของยุทธศาสตร์คือ จะทำอย่างไรให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้ทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นไปพร้อมๆ กัน ขอให้มองย้อนกลับในอดีต หาจุดบกพร่อง และสิ่งที่ต้องแก้ไข เพื่อให้คนในอนาคต 20 ปีข้างหน้า ไม่ต้องมาเจอปัญหาเหล่านี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาที่แก้อยู่ในทุกวันนี้เป็นปัญหาที่ทับถมมานาน ซึ่งในระยะแรกของการบริหารประเทศ คือการแก้ปัญหาในอดีต ไปพร้อมๆ กับการวางรากฐาน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในอนาคต ซึ่งต้องมีการลำดับความสำคัญก่อนหลัง และขับเคลื่อนประเทศด้วยการตรากฎหมายเพื่อรองรับผลการปฏิบัติ โดยวันนี้ต้องเร่งทำงานให้มีเอกภาพและบูรณาการ แต่ยอมรับว่าไม่ใช่ง่ายเพราะประเทศยังมีความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลทำงานกันทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพื่อแก้ไขปัญหาในอดีตและวางรากฐานประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า การเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องดูว่าเราพร้อมแล้วหรือไม่ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพยายามเร่งสร้างความเข้มแข็งจากภายใน สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมตามแนวทางประชารัฐ เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งสามารถลืมตาอ้าปากได้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ทั้งนี้ สาระสำคัญของยุทธศาสตร์คือ จะทำอย่างไรให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้ทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นไปพร้อมๆ กัน ขอให้มองย้อนกลับในอดีต หาจุดบกพร่อง และสิ่งที่ต้องแก้ไข เพื่อให้คนในอนาคต 20 ปีข้างหน้า ไม่ต้องมาเจอปัญหาเหล่านี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาที่แก้อยู่ในทุกวันนี้เป็นปัญหาที่ทับถมมานาน ซึ่งในระยะแรกของการบริหารประเทศ คือการแก้ปัญหาในอดีต ไปพร้อมๆ กับการวางรากฐาน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในอนาคต ซึ่งต้องมีการลำดับความสำคัญก่อนหลัง และขับเคลื่อนประเทศด้วยการตรากฎหมายเพื่อรองรับผลการปฏิบัติ โดยวันนี้ต้องเร่งทำงานให้มีเอกภาพและบูรณาการ แต่ยอมรับว่าไม่ใช่ง่ายเพราะประเทศยังมีความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลทำงานกันทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพื่อแก้ไขปัญหาในอดีตและวางรากฐานประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า การเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องดูว่าเราพร้อมแล้วหรือไม่ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพยายามเร่งสร้างความเข้มแข็งจากภายใน สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมตามแนวทางประชารัฐ เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งสามารถลืมตาอ้าปากได้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง