นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า การตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นประมาณปลายปี 2560 เพราะยึดมั่นกับคำพูดที่ประกาศไว้ว่า ถ้ารัฐธรรมนูญผ่านประชามติจะไม่ลงเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเป็นประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งครบถ้วนหรือจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักาษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หากต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องแล้ว ต้องลงสมัครรับเลือกตั้งจากประชาชนจึงจะสง่างาม และไม่เป็นผู้นำไทยที่มีปมด้อยในเวทีนานาชาติ อีกทั้งไม่ควรกลัวประชาชน ต้องเข้าหาประชาชนความสง่างาม ต้องมาจากประชาชนเลือก
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนกับพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอะไรเป็นปัญหาส่วนตัว ชีวิตของตนไม่ต้องการมีตำแหน่งหน้าที่อะไรมากกว่าความเป็นประชาชน ส่วนนายกรัฐมนตรีไม่ให้ใครมาวิ่งเต้นเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น ในยุคนี้ยังมีใครกล้าวิ่งเต้นอีกหรือ ขออย่าพูดเพียงให้ดูดี ต้องใช้อำนาจตาม ม. 44 จัดการเลย ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงเงินเดือนนายกรัฐมนตรีน้อย แต่ทำงานหนักนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า จะมาพูดเรื่องนี้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนเสียสละ ควรคิดเรื่องเงินเป็นเรื่องเล็ก และต้องรู้ก่อนว่า ตำแหน่งทางการเมืองเป็นงานอาสา ไม่ใช่มาคิดเรื่องเงินเดือนเป็นปัญหา เงินจากการขายที่ดินก็มาก ไม่น่ามาบ่นเรื่องเงินเดือนน้อยเลย ซึ่งน่าจะสละเงินเดือนเสียมากกว่า
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนกับพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอะไรเป็นปัญหาส่วนตัว ชีวิตของตนไม่ต้องการมีตำแหน่งหน้าที่อะไรมากกว่าความเป็นประชาชน ส่วนนายกรัฐมนตรีไม่ให้ใครมาวิ่งเต้นเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น ในยุคนี้ยังมีใครกล้าวิ่งเต้นอีกหรือ ขออย่าพูดเพียงให้ดูดี ต้องใช้อำนาจตาม ม. 44 จัดการเลย ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงเงินเดือนนายกรัฐมนตรีน้อย แต่ทำงานหนักนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า จะมาพูดเรื่องนี้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนเสียสละ ควรคิดเรื่องเงินเป็นเรื่องเล็ก และต้องรู้ก่อนว่า ตำแหน่งทางการเมืองเป็นงานอาสา ไม่ใช่มาคิดเรื่องเงินเดือนเป็นปัญหา เงินจากการขายที่ดินก็มาก ไม่น่ามาบ่นเรื่องเงินเดือนน้อยเลย ซึ่งน่าจะสละเงินเดือนเสียมากกว่า