นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การส่งออกเดือนกรกฎาคมยังคงติดลบ 4.4 % และถ้าหักส่งออกทองคำจะติดลบถึง 8.2% ซึ่งทำให้การส่งออกที่แท้จริงในปีนี้ติดลบตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ หากนับปีที่แล้วก็จะติดลบ 19 เดือนติดกันแล้ว ทั้งนี้การส่งออกที่แท้จริงติดลบตลอดช่วงการบริหารงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และยังแก้ไขไม่ได้ แต่นายสมคิดกลับบอกว่าเศรษฐกิจไทยยืนได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพิงการส่งออกนั้นไม่น่าจะใช่แนวคิดทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง เพราะการส่งออกมีสัดส่วนถึง 70% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงสุดของรายได้ประชาชาติ หากรัฐบาลไม่สามารถฟื้นการส่งออกได้เศรษฐกิจไทยก็จะโตได้น้อย และจะไม่มีแรงขับเคลื่อนในอนาคต ยิ่งการลงทุนลดลงจนเกือบหมดการส่งออกในอนาคตก็จะลดลงตามไปด้วย ขอยืนยันว่าประเทศไทยยังต้องพึ่งการส่งออกในการขับเคลื่อนประเทศ และรัฐบาลควรจะต้องเร่งฟื้นฟูการส่งออกและการลงทุนเพื่อให้ประเทศก้าวหน้าไปได้ ไม่อยากให้เสนอแนวคิดที่บิดเบือนสุดท้ายประเทศจะไม่สามารถพัฒนาได้ และหากนักลงทุนต่างประเทศไม่เชื่อมั่นประเทศไทย ปัญหาเศรษฐกิจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น รัฐบาลควรระวังข้อมูลข่าวสารที่เป็นลบ ควรยึดหลักสากลในการบริหารประเทศ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะโตขึ้น แต่โตจากฐานเศรษฐกิจที่ต่ำมา 2 ปีติดแล้ว และมีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ โดยจะเห็นได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังลำบากกันมาก ดังนั้นอยากขอฝากคำถามไปถึงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า เศรษฐกิจจะโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไรถ้าการส่งออกไม่ฟื้นและการลงทุนไม่เพิ่ม จะหวังพึ่งแต่การลงทุนภาครัฐและการท่องเที่ยวจะสามารถขยายเศรษฐกิจให้ยั่งยืนได้หรือไม่ ซึ่งหากตอบไม่ได้ก็สมควรแล้วที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ หากนับปีที่แล้วก็จะติดลบ 19 เดือนติดกันแล้ว ทั้งนี้การส่งออกที่แท้จริงติดลบตลอดช่วงการบริหารงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และยังแก้ไขไม่ได้ แต่นายสมคิดกลับบอกว่าเศรษฐกิจไทยยืนได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพิงการส่งออกนั้นไม่น่าจะใช่แนวคิดทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง เพราะการส่งออกมีสัดส่วนถึง 70% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงสุดของรายได้ประชาชาติ หากรัฐบาลไม่สามารถฟื้นการส่งออกได้เศรษฐกิจไทยก็จะโตได้น้อย และจะไม่มีแรงขับเคลื่อนในอนาคต ยิ่งการลงทุนลดลงจนเกือบหมดการส่งออกในอนาคตก็จะลดลงตามไปด้วย ขอยืนยันว่าประเทศไทยยังต้องพึ่งการส่งออกในการขับเคลื่อนประเทศ และรัฐบาลควรจะต้องเร่งฟื้นฟูการส่งออกและการลงทุนเพื่อให้ประเทศก้าวหน้าไปได้ ไม่อยากให้เสนอแนวคิดที่บิดเบือนสุดท้ายประเทศจะไม่สามารถพัฒนาได้ และหากนักลงทุนต่างประเทศไม่เชื่อมั่นประเทศไทย ปัญหาเศรษฐกิจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น รัฐบาลควรระวังข้อมูลข่าวสารที่เป็นลบ ควรยึดหลักสากลในการบริหารประเทศ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะโตขึ้น แต่โตจากฐานเศรษฐกิจที่ต่ำมา 2 ปีติดแล้ว และมีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ โดยจะเห็นได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังลำบากกันมาก ดังนั้นอยากขอฝากคำถามไปถึงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า เศรษฐกิจจะโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไรถ้าการส่งออกไม่ฟื้นและการลงทุนไม่เพิ่ม จะหวังพึ่งแต่การลงทุนภาครัฐและการท่องเที่ยวจะสามารถขยายเศรษฐกิจให้ยั่งยืนได้หรือไม่ ซึ่งหากตอบไม่ได้ก็สมควรแล้วที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ