นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีโจรแฮกระบบเอทีเอ็มของธนาคารออมสิน และดูดเงิน 12 ล้านบาท ว่า เงินที่สูญหายเป็นเงินของธนาคาร ไม่กระทบเงินในบัญชีลูกค้าแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งสมาคมฯ ได้มีการประสานกับธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งเพื่อป้องกันอย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงไม่อยากให้กระทบความเชื่อมั่นของประชาชน พร้อมยืนยันว่า ระบบเอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีความมั่นคงปลอดภัย และคาดว่ากรณีธนาคารออมสินที่มีการปิดเอทีเอ็มบางส่วนเพื่อตรวจสอบจะแก้ไขได้เร็วๆ นี้
นายปรีดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบเอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์ไทยไม่ได้มีช่องโหว่และใช้มานานกว่า 30 ปี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากมิจฉาชีพที่คอยจะหาช่องทางทำการทุจริต เช่น การสกิมมิ่ง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากรณีแฮกตู้เอทีเอ็มไม่เคยเกิดขึ้นไนไทย แต่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศ
ขณะที่การคัดเลือกตู้เอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งมีระบบการคัดเลือกแตกต่างกัน และการวางระบบเอทีเอ็มไม่เหมือนกัน แต่ธนาคารทุกแห่งดำเนินการอย่างรอบคอบ รวมทั้งการคัดเลือกสถานที่ในการติดตั้งตู้เอทีเอ็ม ซึ่งพยายามให้มีการกระจายออกไปทุกพื้นที่ เพื่อความสะดวกของลูกค้า
ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยประสานการทำงานกับธนาคารพาณิชย์ทุกด้านทั้งรูปแบบชมรมต่างๆ เช่น ชมรมไอที ชมรมเอทีเอ็ม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและการทำงานร่วมกัน พร้อมย้ำว่า กรณีธนาคารออมสินไม่ได้มีผลกระทบกับเงินของลูกค้า เอทีเอ็มกว่า 60,000 ตู้ทั่วประเทศ ยังทำงานตามปกติ
ส่วนกรณีโจรแฮกตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน และกรณีมิจฉาชีพหลอกโอนเงินลูกค้าธนาคารกสิกรเกือบ 1 ล้านบาท ไม่ได้เกี่ยวกับระบบการโอนเงินแบบพร้อมเพย์แต่อย่างใด ระบบพร้อมเพย์มีความมั่นคงปลอดภัยและจนถึงขณะนี้ยังไม่เริ่มการโอนเงิน ซึ่งจะเริ่มใช้จริงปลายเดือนตุลาคมนี้ ดังนั้น จึงไม่อยากให้ประชาชนนำมาโยงกัน
นายปรีดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบเอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์ไทยไม่ได้มีช่องโหว่และใช้มานานกว่า 30 ปี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากมิจฉาชีพที่คอยจะหาช่องทางทำการทุจริต เช่น การสกิมมิ่ง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากรณีแฮกตู้เอทีเอ็มไม่เคยเกิดขึ้นไนไทย แต่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศ
ขณะที่การคัดเลือกตู้เอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งมีระบบการคัดเลือกแตกต่างกัน และการวางระบบเอทีเอ็มไม่เหมือนกัน แต่ธนาคารทุกแห่งดำเนินการอย่างรอบคอบ รวมทั้งการคัดเลือกสถานที่ในการติดตั้งตู้เอทีเอ็ม ซึ่งพยายามให้มีการกระจายออกไปทุกพื้นที่ เพื่อความสะดวกของลูกค้า
ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยประสานการทำงานกับธนาคารพาณิชย์ทุกด้านทั้งรูปแบบชมรมต่างๆ เช่น ชมรมไอที ชมรมเอทีเอ็ม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและการทำงานร่วมกัน พร้อมย้ำว่า กรณีธนาคารออมสินไม่ได้มีผลกระทบกับเงินของลูกค้า เอทีเอ็มกว่า 60,000 ตู้ทั่วประเทศ ยังทำงานตามปกติ
ส่วนกรณีโจรแฮกตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน และกรณีมิจฉาชีพหลอกโอนเงินลูกค้าธนาคารกสิกรเกือบ 1 ล้านบาท ไม่ได้เกี่ยวกับระบบการโอนเงินแบบพร้อมเพย์แต่อย่างใด ระบบพร้อมเพย์มีความมั่นคงปลอดภัยและจนถึงขณะนี้ยังไม่เริ่มการโอนเงิน ซึ่งจะเริ่มใช้จริงปลายเดือนตุลาคมนี้ ดังนั้น จึงไม่อยากให้ประชาชนนำมาโยงกัน
