xs
xsm
sm
md
lg

"ออมสิน"ปิดบริการเอทีเอ็ม 3 พันตู้ หลังแก๊งแขกขาวแฮ็คเงินกว่า 12 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงกรณีที่เงินในตู้เอทีเอ็ม 21 ตู้ หายไป เป็นเงินกว่า 12 ล้าน 2 แสน 9 หมื่น 1 พันบาท ว่า ขณะนี้ธนาคารกำลังเร่งตรวจสอบ โดยตู้เอทีเอ็มที่ถูกขโมยเงิน ประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต 6 ตู้ จ.สุราษฎร์ธานี 2 ตู้ จ.ชุมพร 2 ตู้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 ตู้ จ.เพชรบุรี 2 ตู้ และกรุงเทพ 5 ตู้ เป็นตู้บริเวณถนนสุขุมวิท และวิภาวดี

ทั้งนี้จากการสอบสวนพบว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มมิจฉาชีพ ชาวยุโรปตะวันออก ซึ่งมีลักษณะคล้ายแขกขาว ได้เข้ามาแฮกระบบตู้เอทีเอ็มไป โดยจะเลือกก่อเหตุเฉพาะเครื่องที่ติดตั้งนอกสถานที่ หรือ Stand Alone และจะเลือกเครื่องยี่ห้อ NCR ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ยี่ห้อที่ธนาคารใช้อยู่ โดยคนร้ายจะใช้โปรแกรม Malware มาแฮ็ค แล้วใช้บัตรกดเงินออกไป ครั้งละ 40,000 บาท ส่วนที่เลือกพุ่งเป้ามากดเงินจากธนาคารออมสิน เพราะ ธนาคารฯ ติดตั้งเครื่องรุ่นนี้กว่า 4 พันเครื่อง

อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าเงินที่หายไปเป็นเงินของธนาคาร ไม่ใช่เงินของลูกค้า ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบต่อระบบบัญชีของลูกค้าแต่อย่างใด โดยขณะนี้ได้สั่งปิดให้บริการตู้เอทีเอ็มบางส่วนแล้วกว่า 3,343 ตู้ เพื่อความปลอดภัย

อีกทั้งเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ลูกค้าสามารถใช้บริการที่ตู้ ATM ของธนาคารอื่นได้ โดยธนาคารออมสินจะไม่คิดค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินข้ามเขต หรือต่างธนาคาร ในระยะนี้ พร้อมกันนี้เชื่อว่า ปัญหานี้จะไม่กระทบกับความเชื่อมั่นของประชาชน ในการใช้ระบบพร้อมเพย์ เพราะเป็นคนละระบบกัน โดยระบบพร้อมเพย์เป็นการโอนเงิน ไม่ใช่ตู้เอทีเอ็ม

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ธปท. ได้รับรายงานจากธนาคารออมสินตั้งแต่เริ่มพบความผิดปกติ จึงได้มีการประสานงานติดตามร่วมกับธนาคารอย่างใกล้ชิด ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียวกัน ธปท.ได้กำชับให้ ธนาคารออมสินเร่งปรับปรุงระบบให้มีความรัดกุมและปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ประสานไปยังสถาบันการเงินอื่น ให้ตระหนัก และประสานความร่วมมือเฝ้าระวัง และมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงของระบบ ATM ให้รัดกุมยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น