รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้(12 ส.ค.59) เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างเก่าแก่ซึ่งเป็นตึก 2 ชั้น ตั้งอยู่ที่ถนนสถานี ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง โดยสร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก
โดยเพลิงได้ลุกโหมจากด้านในห้างทำให้ข้าวของภายในวอดทั้ง 2 ชั้น ซึ่งชั้นแรกเป็นชั้นซุปเปอร์ขายรองเท้าและของกิ๊บช๊อปต่างๆ ส่วนชั้นที่ 2 พื้นที่ทั้งหมดแบ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าสำหรับขายเสื้อผ้าจึงเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี ขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครตรัง เทศบาลเมืองกันตัง เทศบาลตำบลย่านตาขาวและเทศบาลตำบลนาโยง จำนวนกว่า 20 คัน สลับกันมาระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงคาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง เนื่องจากข้าวของด้านในห้างเป็นวัตุเพลิงได้เป็นอย่างดี และในขณะการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบว่ามีเสียงดังจากด้านห้างอยู่เป็นระยะๆ จากการเผาไหม้สินค้าด้านใน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการทำงานเป็นอย่างมาก
ขณะที่สถานการณ์โดยรอบบริเวณประชาชนต่างตื่นมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนับ 30 นาย ต้องวางแนวเขตกรวยและเขตกั้นปิดการจราจรรอบๆบริเวณ เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่กับเพลิงและการวิ่งรถเพื่อขนน้ำมาดับเพลิงเป็นไปโดยสะดวกและห่วงความปลอดภัยของประชาชนในละแวกใกล้เคียง
ทั้งนี้ ห้างดังกล่าวเป็นตึก 2 ชั้น เปิดมาตั้งแต่ปี 2532 ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะรุนแรงอย่างนี้มาก่อน และอยู่ในย่านชุมชนใกล้สถานรถไฟตรัง รร.ธรรมรินทร์ ห้างทองและย่านร้านค้า ทำให้ประชาชนหวาดกลัวว่าหากไม่สามารถควบคุมเพลิงได้จะขยายลุกลามไปตึกร้านบ้านช่องอื่นๆที่อยู่ติดกัน
ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบความชัดเจนว่าจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ไฟไหม้ หรือความสงบในพื้นที่อื่นๆของภาคใต้ซึ่งเกิดขึ้นหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่าต้นเพลิงน่าจะเกิดจากชั้น 2 ของตัวอาคาร ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถทราบได้ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือการลอบวางเพลิงต้องรอเจ้าหน้าที่และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)เข้าดำเนินการตรวจสอบต่อไป หลังสามารถควบคุมเพลิงได้
นายชัยรัตน์ จันทร์ผ่อง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/25 ถนนสถานี ตำบลทับเที่ยง ซึ่งเปิดร้านอาหารฝั่งตรงข้ามห้างดังกล่าว กล่าว่า ตื่นมา 04.00 น. ก็ได้ยินเสียงเปลวเพลิงแล้วซึ่งสร้างความตกใจให้กับประชาชนย่านร้านค้ามาก ซึ่งไม่เคยเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้มาก่อน ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังทำงานกันอย่างหนัก เพื่อสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้
ด้านนายฮวด เฉ้งฉ้วน อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นยามรักษาความปลอดภัยอาคาร กล่าวว่า ตนเองรับหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยที่นี่มาประมาณ 5 ปีแล้ว มาเผลอนอนหลับและรู้สึกตัวตื่นในประมาณ 03.00 น. เพราะได้กลิ่นควันไฟและมีเสียงแตกปะทุเสียงของไฟดังมากก็พบว่าไฟได้โหมลุกไหม้แล้ว จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่โดยคาดว่าเพลิงจะเริ่มลุกไหม้ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น. เนื่องจากพอเวลาประมาณ 03.00 น.เพลิงได้โหมลุกลามไปครอบคลุมหมดทั้งตึกแล้ว
โดยเพลิงได้ลุกโหมจากด้านในห้างทำให้ข้าวของภายในวอดทั้ง 2 ชั้น ซึ่งชั้นแรกเป็นชั้นซุปเปอร์ขายรองเท้าและของกิ๊บช๊อปต่างๆ ส่วนชั้นที่ 2 พื้นที่ทั้งหมดแบ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าสำหรับขายเสื้อผ้าจึงเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี ขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครตรัง เทศบาลเมืองกันตัง เทศบาลตำบลย่านตาขาวและเทศบาลตำบลนาโยง จำนวนกว่า 20 คัน สลับกันมาระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงคาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง เนื่องจากข้าวของด้านในห้างเป็นวัตุเพลิงได้เป็นอย่างดี และในขณะการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบว่ามีเสียงดังจากด้านห้างอยู่เป็นระยะๆ จากการเผาไหม้สินค้าด้านใน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการทำงานเป็นอย่างมาก
ขณะที่สถานการณ์โดยรอบบริเวณประชาชนต่างตื่นมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนับ 30 นาย ต้องวางแนวเขตกรวยและเขตกั้นปิดการจราจรรอบๆบริเวณ เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่กับเพลิงและการวิ่งรถเพื่อขนน้ำมาดับเพลิงเป็นไปโดยสะดวกและห่วงความปลอดภัยของประชาชนในละแวกใกล้เคียง
ทั้งนี้ ห้างดังกล่าวเป็นตึก 2 ชั้น เปิดมาตั้งแต่ปี 2532 ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะรุนแรงอย่างนี้มาก่อน และอยู่ในย่านชุมชนใกล้สถานรถไฟตรัง รร.ธรรมรินทร์ ห้างทองและย่านร้านค้า ทำให้ประชาชนหวาดกลัวว่าหากไม่สามารถควบคุมเพลิงได้จะขยายลุกลามไปตึกร้านบ้านช่องอื่นๆที่อยู่ติดกัน
ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบความชัดเจนว่าจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ไฟไหม้ หรือความสงบในพื้นที่อื่นๆของภาคใต้ซึ่งเกิดขึ้นหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่าต้นเพลิงน่าจะเกิดจากชั้น 2 ของตัวอาคาร ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถทราบได้ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือการลอบวางเพลิงต้องรอเจ้าหน้าที่และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)เข้าดำเนินการตรวจสอบต่อไป หลังสามารถควบคุมเพลิงได้
นายชัยรัตน์ จันทร์ผ่อง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/25 ถนนสถานี ตำบลทับเที่ยง ซึ่งเปิดร้านอาหารฝั่งตรงข้ามห้างดังกล่าว กล่าว่า ตื่นมา 04.00 น. ก็ได้ยินเสียงเปลวเพลิงแล้วซึ่งสร้างความตกใจให้กับประชาชนย่านร้านค้ามาก ซึ่งไม่เคยเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้มาก่อน ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังทำงานกันอย่างหนัก เพื่อสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้
ด้านนายฮวด เฉ้งฉ้วน อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นยามรักษาความปลอดภัยอาคาร กล่าวว่า ตนเองรับหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยที่นี่มาประมาณ 5 ปีแล้ว มาเผลอนอนหลับและรู้สึกตัวตื่นในประมาณ 03.00 น. เพราะได้กลิ่นควันไฟและมีเสียงแตกปะทุเสียงของไฟดังมากก็พบว่าไฟได้โหมลุกไหม้แล้ว จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่โดยคาดว่าเพลิงจะเริ่มลุกไหม้ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น. เนื่องจากพอเวลาประมาณ 03.00 น.เพลิงได้โหมลุกลามไปครอบคลุมหมดทั้งตึกแล้ว
