ตรัง - เพลิงไหม้ห้างลีมาร์ทสงบลงแล้ว หลังต้องใช้เวลาควบคุมเกือบ 2 วัน ไม่พบผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต และหลักฐานที่เกี่ยวกับการวางเพลิง หรือระเบิด คาดต้องทุบอาคารทิ้งทั้งหลังเพราะโครงสร้างผิดรูป
วันนี้ (14 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองตรัง ขนาด 4 ชั้น ชื่อว่า “ลีมาร์ท ซุปเปอร์ค้าส่ง” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟตรัง บนถนนสถานี ในเขตเทศบาลนครตรัง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง และเขตที่ 12 สงขลา สามารถควบคุมเพลิงให้ดับได้ทั้งหมดแล้ว หลังจากต้องใช้ระยะเวลายาวนานถึง 40 ชั่วโมง หรือเกือบ 2 วัน เนื่องจากบริเวณชั้น 4 ซึ่งเป็นโกดังเก็บสินค้าจำพวกสเปรย์ และกระป๋องน้ำยาชนิดต่างๆ ที่มีส่วนผสมของสี หรือแอลกอฮอล์ได้เกิดการลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา แถมยังมีการระเบิดอีกเป็นระยะๆ จนเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับเพดานของห้างก็ทำด้วยเมทัลชีท ซึ่งมีความแข็งมาก กว่าที่จะเจาะเข้าไปดับเพลิงได้จึงต้องใช้เวลานาน
นายรักเกียรติ ชูแสง รองปลัดเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากทุกส่วน พร้อมรถดับเพลิงได้ถอนตัวออกไปจากบริเวณห้างลีมาร์ททั้งหมดแล้ว พร้อมส่งมอบพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป โดยขณะนี้ไฟทุกชั้นดับสนิท และจะไม่ลุกไหม้ขึ้นมาอีกแล้ว เพราะใช้น้ำดับเพลิงไปจำนวนกว่า 1 ล้านลิตร ซึ่งนับเป็นเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง อีกทั้งยังทำให้ทรัพย์สินภายในห้างซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า และสินค้าทั่วไปในซูเปอร์มาร์เกต เสียหายทั้งหมด 100% ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบตัวอาคารพบว่า เสาที่บริเวณชั้น 1 และเพดานหลังคามีลักษณะผิดรูป ซึ่งเทศบาลนครตรัง จะร่วมกับสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง ส่งวิศวกรเข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีแนวโน้มว่าจะต้องทุบตัวอาคารทิ้งหลังเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนั้น จากการเข้าไปตรวจสอบภายในห้างทั้ง 4 ชั้น เป็นการเบื้องต้น ไม่พบผู้บาดเจ็บ หรือผู้เสียชีวิต เนื่องจากเหตุเกิดในช่วงหัวรุ่ง และมียามคอยดูแลการเข้าออกตลอดทั้งคืน รวมทั้งไม่พบหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการวางเพลิง หรือการระเบิด นอกจากนั้น ยังพบต้นเพลิงเกิดมาจากบริเวณชั้น 1 ไม่ได้เกิดมาจากชั้น 2 ตามที่มีข่าวมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม คงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมีเวลาทำงานจำกัด และมีเศษสิ่งของที่ถูกเพลิงไหม้หลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก
