พ.ต.ท.บุญเรือง สาระรัมย์ อายุ 49 ปี สารวัตรสืบสวน เปิดเผยถึงกรณีที่ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรีได้พานางอู๊ด อายุ 75 ปี เข้าเยี่ยม นางดาว (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ลูกสาว ที่เข้ารับการรักษาตัวในห้องไอซียูของโรงพยาบาลสมุทรสาคร ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซี่โครงหัก ปอดฉีก ม้ามแตก และเลือดคั่งในสมอง หลังจากถูกสามีที่เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.ของสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาครทำร้ายร่างกาย ได้เดินทางเข้าให้การกับ พ.ต.ท.วิรัตน์ ผลพัฒนสกุลชัย พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดย พ.ต.ท.บุญเรือง กล่าวทั้งน้ำตาว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพราะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับภรรยา และทางฝ่ายหญิงใช้วาจาข่มขู่ว่าจะพาลูก 2 คนหนี เนื่องจากตนไม่ทำตามสัญญาที่จะให้ค่าเลี้ยงดูตามที่ตกลงกันไว้เดือนละ 10,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาตนประสบกับภาวะปัญหาทางด้านการเงิน จึงทำให้ขาดจ่ายเงินให้แก่ภรรยาในเดือนที่ผ่านมา จนกลายเป็นปัญหาและนำมาซึ่งเหตุการณ์ทำร้ายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พร้อมที่จะรับโทษทุกอย่างตามกฎหมาย ไม่คิดที่จะหนีไปไหน
ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า พ.ต.ท.บุญเรืองได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส นอกจากนี้ ยังมีความผิด พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัวฯด้วย ในวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนการดำเนินการทางวินัยนั้น กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (บก.ภ.จว.สมุทรสาคร) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยจะเร่งดำเนินการให้ปรากฏข้อเท็จจริง และดำเนินการทางวินัยต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า พ.ต.ท.บุญเรืองได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส นอกจากนี้ ยังมีความผิด พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัวฯด้วย ในวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนการดำเนินการทางวินัยนั้น กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (บก.ภ.จว.สมุทรสาคร) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยจะเร่งดำเนินการให้ปรากฏข้อเท็จจริง และดำเนินการทางวินัยต่อไป
