ประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ตุรกีในวันศุกร์(29ก.ค.) กล่าวหาด้วยความโกรธเกรี้ยวว่านายพลระดับสูงของสหรัฐฯนายหนึ่งอยู่ข้างเหล่าผู้วางแผนก่อรัฐประหาร พร้อมระบุความยุ่งเหยิงในประเทศอาจนำมาซึ่งการปรับลดความร่วมมือทางทหารกับวอชิงตัน
ตุรกีจับกุมเหล่าทหารระดับนายพลเกือบครึ่งจากทั้งหมด 358 นาย ฐานสมคบคิดพยายามยึดอำนาจแต่ล้มเหลวเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม เป็นผลให้ต้องการมีปรับเปลี่ยนตำแหน่งบนๆของกองทัพอย่างปัจจุบันทันด่วนและก่อความกังวลต่อยุทธศาสตร์ทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่ในตอนนี้
พล.อ.โจเซฟ โวเทล ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการกลางสหรัฐฯ (US Central Command) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอเมริกาในวันพฤหัสบดี(28ก.ค.) ว่าความพยายามรัฐประหารและตามด้วยการไล่ต้อนนายพลหลายสิบนายอาจกระทบความร่วมมือทางทหารระหว่างวอชิงตันกับอังการา
ในวันศุกร์(29ก.ค.) แอร์โดอัน ตอบโต้อย่างโกรธเกรี้ยว ณ ศูนย์ทหารแห่งหนึ่งในกอลบาซี รอบนอกกรุงอังการา ว่า "คุณเลือกข้างพวกวางแผนรัฐประหารแทนที่จะขอบคุณรัฐนี้ที่เอาชนะความพยายามรัฐประหาร" เขากล่าว "คุณเปิดโปงตัวตนด้วยคำพูดของตัวเอง เราจะไม่เล่นเกมกับพวกคุณ"
คำพูดของนายโวเทล บ่งชี้ว่าสหรัฐฯได้สูญเสียเหล่าเพื่อนที่ถูกคอภายในกองทัพตุรกี ที่เวลานี้ถูกคุมขังและโดนกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามรัฐประหาร ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของ เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวกรองแห่งชาติอเมริกา
ตุรกีจับกุมเหล่าทหารระดับนายพลเกือบครึ่งจากทั้งหมด 358 นาย ฐานสมคบคิดพยายามยึดอำนาจแต่ล้มเหลวเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม เป็นผลให้ต้องการมีปรับเปลี่ยนตำแหน่งบนๆของกองทัพอย่างปัจจุบันทันด่วนและก่อความกังวลต่อยุทธศาสตร์ทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่ในตอนนี้
พล.อ.โจเซฟ โวเทล ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการกลางสหรัฐฯ (US Central Command) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอเมริกาในวันพฤหัสบดี(28ก.ค.) ว่าความพยายามรัฐประหารและตามด้วยการไล่ต้อนนายพลหลายสิบนายอาจกระทบความร่วมมือทางทหารระหว่างวอชิงตันกับอังการา
ในวันศุกร์(29ก.ค.) แอร์โดอัน ตอบโต้อย่างโกรธเกรี้ยว ณ ศูนย์ทหารแห่งหนึ่งในกอลบาซี รอบนอกกรุงอังการา ว่า "คุณเลือกข้างพวกวางแผนรัฐประหารแทนที่จะขอบคุณรัฐนี้ที่เอาชนะความพยายามรัฐประหาร" เขากล่าว "คุณเปิดโปงตัวตนด้วยคำพูดของตัวเอง เราจะไม่เล่นเกมกับพวกคุณ"
คำพูดของนายโวเทล บ่งชี้ว่าสหรัฐฯได้สูญเสียเหล่าเพื่อนที่ถูกคอภายในกองทัพตุรกี ที่เวลานี้ถูกคุมขังและโดนกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามรัฐประหาร ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของ เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวกรองแห่งชาติอเมริกา
