สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปีจะเป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ เนื่องจากเมื่อ 50 กว่าปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเป็นองค์ประธานในการประชุมวิชาการของชมรมภาษาไทย ร่วมกับคณะผู้ทรงคุณวุฒิ และจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย โดยทรงแสดงความสนพระราชหฤทัยในการใช้ภาษาไทย ทรงห่วงใยและได้ทรงพระราชทานแนวความคิดในการอนุรักษ์ภาษาไทย รวมทั้งทรงย้ำให้ประชาชนชาวไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทย เนื่องจากเป็นมรดกของคนไทยทุกคน ผู้ที่เป็นเจ้าของภาษาเป็นคนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจที่ชาติไทยได้ใช้ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติของตัวเองมากว่า 700 ปีแล้ว เป็นภาษาหนึ่งที่ถือว่าเก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีทั้งภาษาพูด มีตัวอักษาเขียน ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ทรงประดิษฐ์อักษรไทยไว้ ดังที่ปรากฏบนหลักศิลาจารึก ต่อมานั้นองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ที่เรียกว่ายูเนสโกนั้น ได้ยกย่องศิลาจารึกว่าเป็นมรดกความทรงจำของโลก โดยได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ผ่านตัวอักษรไทย ที่อุดมเป็นด้วยคุณค่าทางวิชาการหลายสาขา ทั้งในด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม วรรณคดี ศาสนา และจารีตประเพณี ในการที่จะปลูกฝังให้คนไทยนั้นทั้งชาติได้ร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญ และคุณค่าของภาษาไทย อาจแสดงถึงความเป็นชาติใช้ให้ถูกต้องชัดเจนตามหลักไวยากรณ์ ทั้งการพูด การอ่าน การเขียน ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เพื่อให้เกิดความงดงามทางภาษา เช่น การพูดจาที่มีหางเสียง ครับ ค่ะ อันเป็นเอกลักษณ์ และสมบัติทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นของชาติให้ดำรงอยู่ตลอดไป
ก็เหมือนกับที่ผมเคยกล่าวหายครั้งแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่านก็ทรงรับสั่งของเสมอว่า ขอให้คนไทยนั้นได้เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ เรามีประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรามาทั้งเรื่องภาษา วัฒนธรรม ประเพณีอันงดงาม เราก็อย่าทิ้งของเดิม จะเดินไปข้างหน้าก็กลับมาดูของเดิมไว้ด้วย รักษาไว้ให้ได้
จากการติดตามข่าวสารด้านการศึกษาของลูกหลานเราในห้วงเดือนกรกฎาคมนี้ เราก็มีนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันต่าง ๆ นานาชาติ ที่กำลังเกี่ยวพันกับแนวทางการศึกษาที่เรียกว่าสเต็มศึกษา (STEM) อันได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ โดยประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เช่น อันที่ 1.การแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระหว่างประเทศที่ประเทศเวียดนาม ได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2.การแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ ณ ประเทศมาเลเซีย ของนักเรียน ป.1-ม.3 จำนวน 63 คน สามารถคว้าชัยได้ถึง 27 เหรียญทอง และรางวัลอื่น ๆ อีก รวมทั้งสิ้น 57 รางวัล ไม่ใช่น้อยเลยนะครับ น่าภาคภูมิใจแทนเด็กเขา 3.การแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาจำนวน 6 คน สามารถคว้าได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 12 จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 109 ประเทศ มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 602 คน ไม่ใช่ธรรมดา 4.การแข่งขันประกวดสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์นานาชาติ ณ ประเทศจีน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาจำนวน 12 คน ชั้นละ 2 รางวัล และรางวัลอื่นๆอีกรวมทั้งสิ้น 8 รางวัล ที่น่าสนใจนะครับเป็นผลงานเครื่องช่วยเก็บพริกเกิดจากการที่เด็กอยากจะช่วยผู้ปกครองทำงานจนสามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการเก็บพริก จากเก็บนิ้วมือได้ 5 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ซึ่งถ้าเอาเครื่องมือที่เด็กๆคิดมาแล้วง่ายๆ สามารถเก็บพริกได้ 13 กิโลกรัมต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เหล่านี้เป็นต้น ผมก็ขอแสดงความยินดีและชื่นชม นักเรียน คณะครูอาจารย์ทุกท่านด้วยนะ สำหรับการที่จะพัฒนาการเรียนรู้สำคัญที่สุดคือครอบครัวนะครับ พ่อแม่จะต้องให้ความสำคัญ ในเรื่องนี้ด้วย
ในกรณีสเต็มศึกษา นั้น มันจะมีการเชื่อมโยง กับทุกอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ที่เราเรียนไปแล้วว่ามี 5 บวก 5 S-Curve มันจะเป็นจุดเริ่มต้น พาศูนย์กลางพัฒนาไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคต นอกจากความร่วมมือ ในตำราดังกล่าวแลว ผมอยากให้เด็กนักเรียน นักศึกษา ครู ให้ความสำคัญ กับความรู้รอบตัว ทุกคนต้องพร้อมเป็นนักเรียนด้วยกัน เริ่มจากสิ่งไหนที่ใกล้ตัว ยกตัวเช่น เม็ดพลาสติก โพลิเมอร์ โพลีคาร์บอเนต เป็นนวัตกรรมซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดโลก มีอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากมายหลายสาขา ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ ยานยนต์ การใช้รถยนต์ มอเตอร์ไซต์ หมวกกันน็อก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กีฬา สมาร์ทการ์ด รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพย์ เช่น เครื่องฟอกไต และหุ่นยนต์ต่าง ๆ ก็จะเห็นได้ ว่า ทุกอย่างนั้นจำเป็นต้องเริ่มต้น จาก เม็ดพลาสติก ทั้งสิ้น ต้อง การสะเต็มศึกษา เราต้องการ ผู้นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะย้อนไปสู่การทำงานที่หลากหลาย 1 อากให้รู้ว่าไทยนั้นเป็น 1 ใน 8 ศูนย์การผลิตเม็ดพลาสติก ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ตลอดปีที่ผ่านมาไทยผลิตเม็ดพลาสติก ป้อนตลาดโลก เกือบ 3 แสนเมตริกตัน แต่ก็น่าเสียดายที่เป็นการผลิตเม็ดพลาสติกขั้นต้น การแปรรูป การเพิ่มมูลค่าไปเกิดนอกประเทศ ไมได้เกิดในบ้านเรา ซึ่งเราถือว่าเป็นต้นทาง ฉะนั้นการแปรรูปไปสร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าอยู่ข้างนอกหมด เราก็สูญเสียโอกาส ที่จะสร้างงาน สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ ที่ยกตัวอย่างมานั้น เพราะอยากจะให้ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ช่วยกันให้ความสำคัญในการต่อยอด จากความรู้รอบตัว สถานการณ์โลก ภายใน ปัจจัยภายใน ภายนอก ของประเทศ ลูกหลานก็ได้ให้ความสนใจ เพราะการศึกษาไม่ใช่เพียงเพื่อใบปริญญาเป็นสำคัญอย่างเดียว เราต้องคิดถึงการประกอบอาชีพเพื่อจะเลี้ยงดูตนเอง ครอบครัว ต่อไปภายภาคหน้า และถ้าเรามองไปไกลกว่านั้น ก็คือการพัฒนาประเทศ ฉะนั้นเราต้องช่วยกันสร้างทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาโดยการช่วยชาติ สร้างความตระหนักรู้ในเรื่องความรู้รอบตัว และความคิดสร้างสรรค์ ให้กับลูกหลานของเราอย่างต่อเนื่องด้วย
ในเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันนั้น นอกจากจะเป็นการเพิ่มผลผลิตด้วยนวัตกรรมแล้ว หรือนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตแล้ว รัฐบาลก็ยังเน้นในเรื่องของการลดต้นทุนในการผลิตด้วย ในกิจกรรมต่างๆหลายตัวอย่างด้วยกัน เรื่องแรกคือการช่วยเหลือชาวนา ตามมาตรการลดค่าเช่านา ซึ่งอยู่ในเรื่องของการลดปัจจัยการผลิต ซึ่งจะเป็นต้นทุนการผลิตของเกษตรกรในฤดูกาลผลิตปี 59-60 รอบการทำนาปรัง ตั้งแต่มกราคม - มิถุนายน 59 โดยได้ดำเนินการมา 2 มาตรการ คือ 1.การควบคุมค่าเช่านา ไม่ให้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็มีผลดำเนินการทั้ง 4 ภาคของประเทศ ซึ่งมีผู้เช่านาทั้งสิ้นกว่า 350,000 ราย ในพื้นที่นา 9 ล้านกว่าไร่ สามารถควบคุมค่าเช่านาได้ 260,000 ราย และสามารถเจรจาลดค่าเช่านาได้ 1 แสนราย รวมเป็นเงินในการลดต้นทุนการผลิตในเรื่องค่าเช่านาให้กับเกษตรกรได้มากกว่า 48 ล้านบาท และขอความร่วมมือในการลด งดค่าเช่านาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถลดค่าเช่านาได้เกือบ 600 ราย ในพื้นที่ 7,000 ไร่ คิดเป็นเงิน 1 ล้านกว่าบาท และงดเก็บค่าเช่านาได้ 16 ราย ในพื้นที่ 266 ไร่ คิดเป็นเงิน 2 แสนกว่าบาท
ทั้งนี้ก็เป็นความร่วมมือของทุกฝ่าย ขอบคุณบรรดาผู้ให้เช่านาด้วยให้ความร่วมมือ เกษตรกรด้วยอะไรด้วย ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันอย่าเบียดเบียนกันในช่วงที่มีความยากลำบาก เราช่วยกันทำกุศล สามารถทำให้ชาวนาไทยนั้นลืมตาอ้าปากได้ มีรอยยิ้ม มีความสุขมากขึ้น
ในเรื่องที่ 2.คือเรื่องปรับลดขั้นตอนการส่งออกสินค้า อันนี้เป็นเรื่องของการอำนวยความสะดวก เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ อำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจด้วย เราได้นำร่องการลดขั้นตอนการส่งออก เช่น สินค้าข้าว ก็เกิดผลดีในทุกมิติ ได้แก่การพิจารณาขั้นตอนที่เกี่ยวกับระเบียบและกฎหมาย ตั้งแต่การยื่นคำขอ จนถึงการได้รับใบอนุญาต ใบรับรองลดลงกว่า 70% ส่งผลให้ย่นระยะเวลาในการดำเนินการลง 83% ค่าใช้จ่ายถูกลงมากกว่า 60% และลดเอกสารลง 45% เป็นการลดการใช้เอกสารที่เป็นกระดาษ ทั้งแบบฟอร์มคำขอ และเอกสารแนบ เพื่อจะนำระบบไอทีที่เราเรียกว่า ไอซีทีก็จะนำระบบการบันทึก และแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาใช้ รวมทั้งการยกเลิกบางขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนไม่จำเป็น ซึ่งในการส่งออกข้าวนั้นมี 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่หน่วยงานเดียว วันนี้ต้องทำความเข้าใจกันให้มาก มาตรการดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของรัฐบาลนี้ ในความพยายามที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การให้บริการภาครัฐด้วยมาตรการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจให้รวดเร็ว และโปร่งใส เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพในการแข่งขันของประเทศในภาพรวมอีกด้วย
ปีหน้านั้นเราต้องช่วยนำกันไปขยายผลกับสินค้าเกษตรอื่นๆ อีกด้วย เช่น น้ำตาล ยางพารา สินค้าแช่แข็ง เป็นต้น ผมเห็นว่าเวลานั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของต้นทุนการผลิต ถ้าเราลดเวลาลงไม่ได้มันจะเป็นตัวถ่วงในการทำธุรกิจ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็สิ้นเปลือง และชักช้าในการดำเนินการทำให้เป็นตัวถ่วงในการพัฒนาประเทศในภาพรวมเราก็เดินหน้าไปไม่ได้ แข่งขันกับใครไม่ได้ มีหลายเรื่องนะครับ เช่น ที่เราทำไปก็คือการจดทะเบียนธุรกิจ ซึ่งเดิมใช้เวลาเป็นแรมเดือน การทำอีไอเอใช้เวลาเป็นปี เราต้องช่วยกันแก้ไขปรับปรุง ทำอย่างไรมันถึงจะเดินไปได้ ถ้าต่างคนต่างไม่ยึดถือทางสายกลาง ทำให้ไม่เสียหายได้ด้วยกันทั้งคู่มันก็จะทำได้ ถ้าจะไปซ้ายทั้งหมดอย่างเดียวขวาอย่างเดียวก้ไม่ได้ ตามกฎหมายก็ว่ากันก่อนเราจะแก้ไขกันอย่างไร มันถึงจะเกิดผลผลิตขึ้นมา และจะเป็นผลสัมฤทธิ์ เราต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเร็วขึ้นทั้งหมด
ต่อไปเรื่องศูนย์ดำรงธรรมที่เรียกว่าสายด่วน 1567 ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เป็นวิวัฒนาการที่ดี ที่รัฐบาลนี้ และ คสช.ให้ความสำคัญตั้งแต่ปีแรกที่เราเข้ามา ในการที่เราจะปรับรูปแบบการให้บริการ การเข้าถึง การสื่อสารกับประชาชน ก็ถือว่าเป็นช่องทางการสื่อสารที่สำคัญที่รัฐบาลนี้ได้ใช้ดูแลทุกข์สุขของประชาชนทุกคนให้สามารถเข้าถึงการบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จภายในจุดเดียวตามแนวทางประชารัฐ และการบริการของรัฐในการทำงานต่างๆ นับตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2557 ตั้งแต่ตั้งมาจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นเวลา 2 ปีแล้วพี่น้องประชาชนก็มาร้องเรียนร้องทุกข์มีการใช้บริการทั้งในรูปแบบเบ็ดเสร็จ ณ ศูนย์บริการ หรือใช้สำหรับการส่งต่อ หรือในการที่เราจัดแบบหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ได้แก้ปัญหาเกือบ 3 ล้านราย และปัญหาต่างๆ ที่ว่านั้นถูกคลี่คลายได้รับการแก้ไขมากกว่า 96 เปอร์เซ็นต์
4 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นเรื่องของความซับซ้อนที่มันเป็นมายาวนาน มันต้องแก้หลายๆ อย่างด้วยกัน ก็ขอเวลาอีกสักหน่อยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เช่น ชาวบ้านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถูกไล่ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จัดหาพื้นที่ราชพัสดุ และร่วมกับเอกชนประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันสร้างบ้านให้
เรื่องที่ 2. ชุมชนในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร้องเรียนโรงงานที่ส่งเสียงดังมีกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้ลงพื้นที่ร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการแนะนำให้ปลูกต้นไม้ และใช้หลักวิชาการมาแก้ปัญหาเป็นต้น ทั้งนี้ผมอยากให้ศูนย์ดำรงธรรมเป็นมากกว่าช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างพี่น้องประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐ อยากให้เป็นศูนย์รวมทุกอย่างในการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน สอนมีกระบวนการเรียนรู้ด้วย เพื่อจะให้เกิดการลดความเลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยในการบริหารราชการแผ่นดิน และจะได้ให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา ไม่งั้นก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เหมือนคำกล่าวเดิมๆ วันนี้ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา หรือที่กล่าวกันว่า ธุระไม่ใช่ อย่าไปยุ่งดีกว่า อย่างนี้ไม่ได้แล้ว เพราะบ้านเมืองต้องการความสงบสุข ต้องช่วยกันดูแล ความเรียบร้อยทั่วไปของบ้านเมือง หน้าที่สำคัญคือการเฝ้าระวัง และแจ้งเบาะแสการทำผิดกฎหมาย เช่น บ่อนการพนัน แหล่งมั่งสุม เจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งต้องระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยให้คนแจ้งเขาด้วย ไม่งั้นเขาก็ไม่อยากจะยุ่ง ขอให้เป็นความลับ จะได้มีการช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ การบุกรุกป่า ไม่ใช่พอเขามาช่วยก็ถ่ายรูปออกทีวี ออกอะไรต่างๆ เขาก็อันตราย อีกหน่อยก็ไม่มีคนช่วย เรื่องการทิ้งขยะของเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะก็ช่วยกันตักเตือน เห็นใครทิ้งเดี๋ยวนั้น ก็ว่ากันเดี๋ยวนั้น ไม่ใช่ทะเลาะกัน บอกเขาว่า ช่วยเก็บกันอย่าทิ้งตรงนี้เลยก็แค่นี้เอง ถ้าทุกคนปล่อยปละละเลยไปเรื่อยๆ ไอ้ขยะเหล่านั้นมันก็กระจายไปทั่ว รถวิ่งไปวิ่งมามันก็ยิ่งสกปรก ช่วยกันตักเตือน ไม่ใช่ไปทำร้าย หรือไปว่ากล่าวให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันอีก
ฉะนั้นต่อไปนี้ข้าราชการก็คงจะต้องทำงานหนักขึ้น ผมทราบว่าหนักขึ้นมา 2 ปีแล้ว แล้วต้องเสียสละมากกว่าที่เคยมา ทั้งนี้ผมถือว่า เหงื่อของข้าราชการก็คือน้ำใจที่ให้กับประชาชน ทุ่มเทให้กับเขา โดยเฉพาะในช่วงของการที่เราจะเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคต ประเทศชาติเรานั้นต้องการคำว่า จิตสำนึก จิตสาธารณะ อุดมการณ์ ของการเป็นคนไทยเหล่านี้ต้องเกิดขึ้น ต้องมีอยู่ รื้อฟื้นไปเท่านั้นเอง เพราะว่าทุกคนนั้นจะได้ใช้เป็นแรงผลักดัน แรงขับเคลื่อนของประเทศ เพื่อพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ถ้ายกตัวอย่าง ก็เกาหลีใต้ เยอรมัน มีสงครามเกิดขึ้น มีความเสียหายมากมาย แต่เขาสามารถเร่งพัฒนาประเทศภายหลังสงครามได้โดยเร็ว ด้วยความอดทน ด้วยความร่วมมือกันทุกฝ่าย ความสบายอาจจะไม่ได้สร้างคนมากนัก แต่ความลำบากจะสร้างคนให้แข็งแกร่ง ประเทศเราก็เหมือนกัน เราอาจจะโชคดี ไม่เหมือนต่างประเทศเขา แต่เราต้องใช้ทุกอย่างที่เราเรียนรู้มาจากเพื่อนเราบ้าง มาช่วยกันปรับปรุง อย่าทำให้โอกาสที่เรามีอยู่แล้วมันสูญเสียไป เราทะเลาะกันอีกต่อไปไม่ได้แล้ว
เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ ผมก็กล่าวมาหลายครั้งแล้ว มันเป็นความหวังหนึ่ง ในการที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน อันนี้ไม่ใช่ผมคิดขึ้นมาเอง มันเป็นหลักการทางวิชาการด้วยอยู่แล้ว เอกสารวิจัย การเรียนในหลักสูตรต่างๆก็มีอยู่หมด ฉะนั้นเป็นแนวทางในการที่จะทำให้รัฐบาล หรือผู้บริหารประเทศ ได้มีการบริหารไปด้วยความโปร่งใส ตามหลักการทั้งหมด 9 ข้อ ของธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ผ่านความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน และใช้แนวทางของหลักเศรษฐกิจพอเพียงเหล่านี้ จำเป็นต้องรื้อฟื้นขึ้นมา
ฉะนั้นเราถึงจำเป็นที่ต้องบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายสูงสุดของประเทศ และมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่จะกำหนดยุทธศาสตร์ และมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกันกับยุทธศาสตร์ชาติ เช่น แผนพัฒนาฉบับที่ 12 ที่จะประกาศใช้ในเดือนตุลาคม 2559 นี้ ที่เราเรียกว่าแผน 6- 6 -4 หมายความถึงยุทธศาสตร์ 6 ร่าง ที่สอดคล้องกันกับยุทธศาสตร์แผนการพัฒนาในฉบับที่ 2 ใน 6 ด้าน อันได้แก่ ความมั่นคง เรื่องการเสริมสร้าง ความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศ สู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน 2.คือด้านเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และมีการแข่งขัน เพิ่มขีดความสามารถได้อย่างยั่งยืน 3.คือด้านสังคม เป็นการสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม 4.ด้านทรัพยากรมนุษย์ คือการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ 5.ด้านสิ่งแวดล้อม การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 6.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน คือการบริหารราชการในภาครัฐ การป้องกันการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการมีธรรมาภิบาลในสังคมไทย นอกจากนั้นเรายังมียุทธศาสตร์เพิ่มเติมใน 4 ด้าน ซึ่งจริงๆบรรจุอยู่ใน 6 เพื่อจะสนับสนุนให้ 6 ยุทธศาสตร์แรกบรรลุตามวัตถุประสงค์ ได้แก่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจะสนับสนุนเศรษฐกิจสังคม การแสดงความเจริญ การพัฒนาเมือง และพื้นที่ รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
อันที่ 2 ที่เสริมไว้คือการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม เน้นการเป็นเจ้าของเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆเองของคนไทย เพื่อจะเป็นการขับเคลื่อนภาคการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 3.คือการพัฒนาเมือง เศรษฐกิจ ที่รวมความไปถึงในพื้นที่ด้วย เราต้องพัฒนาทั้งภูมิภาค และในเขตพื้นที่เศรษฐกิจที่เรามีศักยภาพ เราต้องยกระดับทั้งหมด ตั้งแต่ฐานการผลิต และการบริการเดิมให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการขยายฐานใหม่ให้ความสำคัญกับการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม อันจะเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุก ที่จะขยายความเจริญ กระจายออกไป ยกระดับรายได้ของประชาชนอย่างเท่าเทียม ทุกภูมิภาคของประเทศ ไม่ใช่แค่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ภาคกลาง เมืองใหญ่มันแน่นขึ้นทุกวัน เราต้องสร้างสรรค์ในเชิงบวก มีระเบียบ ไม่อย่างนั้นคนก็จะเข้ามาในเมืองใหญ่ จนกระทั่ง มีปัญหาเรื่องการจราจร มีปัญหาเรื่องน้ำเสีย มากมาย มันก็ต้องกระจัดกระจายออกไป ไปอยู่ในพื้นที่ภูมิลำเนาบ้านเกิดกัน นักเรียน นักศึกษาก็ต้องมุ่งหวังเพื่อที่จะได้ไปพัฒนาบ้านตัวเองดีกว่า รัฐบาลมุ่งเน้นอย่างนั้น
4.ความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อที่จะให้เกิดการพัฒนาเชื่อมโยงกันในกลุ่มประเทศ ที่ผมว่าไปแล้วคือ CMLVT อาเซียน และ โลก เพราะเราอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าเดียวกัน มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เราอพยพย้ายที่เราไม่ได้ ทุกประเทศย้ายที่ไม่ได้หมด ที่ผ่านมานั้น เราก็ได้ ร่วมการเป็นภาคี ลงสัตยาบันให้ข้อรับรองกับต่างประเทศหลายเรื่องด้วยกันที่ผ่านมา แต่อาจไม่สามารถปฏิบัติตามได้ทั้งหมด เพราะว่าไม่สามารถออกกฎหมาย เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมได้ เพราะว่าที่ผ่านมาท่านก็ทราบดีอยู่กฎหมายบางกฎหมายมันออกไม่ได้เลย รัฐบาลนี้ดำเนินได้จนสำเร็จ มันก็มีคนขัดแย้ง ไม่เห็นด้วย เห็นด้วยแล้วแต่ แต่เราจำเป็น ไม่อย่างนั้นเราก็อยู่ในโลกใบนี้ไม่ได้ เราจำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้เกิดความเชื่อมั่นในเวทีโลก เช่น พ.ร.บ.ความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าฉบับที่ 3 ตามพิธีสารมาดริด พ.ร.บ.ป้องกันการฟอกเงินฉบับที่ 5 ตามข้อตกลงป้องกันการฟอกเงิน กรมศุลกากรฉบับที่ 22 ตามข้อตกลงการขนส่งข้ามพรมแดน ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน พ.ร.บ. ป้องกันการปราบปรามและการค้ามนุษย์ฉบับที่ 2 ตามความตกลงการค้าค้ามนุษย์ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การสนับสนุนการก่อการร้าย ตามสัญญาการก่อการร้าย เป็นต้น
เหล่านี้ยังมีอีกมากมาย ตัวอย่างปัญหาการเชื่อมโยงกับนานาอารยประเทศ รัฐบาลนี้ได้เร่งรัด ดำเนินการแก้ไข ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ก็มีความก้าวหน้า มีผลความสำเร็จอยู่บ้าง คือเป็นขั้นเป็นตอนเป็นลำดับ ต้องยอมรับอันที่ 1 คือการแก้ปัญหา งาช้าง ตามอนุสัญญาการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ที่เรียกว่า ไซเตส ซึ่งการออก พ.ร.บ.สัตว์สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ร.บ.งาช้าง และปรับปรุงแผนงาช้างแห่งประเทศไทย ทำให้รอดรอดพ้นการถูกคว่ำบาตรการค้าจากไซเตส ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายของประเทศไม่น้อยกว่า 47,000 ล้านบาทต่อปี
2.การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้วยการออก พ.ร.บ.ป้องกันการปราบปรามและการค้ามนุษย์ฉบับที่ 2 ได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ดำเนินคดี การคัดแยก ฟ้องผู้เสีย และการคุ้มครองป้องกันกลุ่มเสี่ยงก็มีความคืบหน้า ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ปรับระดับรายงานการค้ามนุษย์ 2559 ให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู ของทางอียู เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกันสินค้าประมง เรามีมูลค่าการส่งออกกว่า 240,000 ล้านบาทต่อปี ก็ต้องช่วยกันเสียสละกันหน่อย แต่ช่วงนี้อาจจะลำบากหน่อยสำหรับผู้ประกอบการและชาวประมงเหล่านี้
อันที่ 3. คือการแก้ไขการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ก็มีความก้าวหน้าตามลำดับ ตามแผนปฏิบัติการที่สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศไทยได้จัดทำขึ้น มีการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การออกพระราชบัญญัติกำหนดจัดตั้งสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยขึ้น (กพท.) มีการเจรจาลงนามกับ EASA เรื่องขอบเขตของงานและความร่วมมือ รวมทั้งมีการแจ้งหลายละเอียดกับสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยจะดำเนินการต่อไปนะครับตามห้วงและเวลา มีการคัดสรรบรรจุบุคลากรตามโครงสร้าง กพท.ในทุกด้าน มีการฝึกอบรมผู้ตรวจสอบความปลอดภัยในการบิน และมาตรฐานความปลอดภัยด้านอื่นๆ ให้เพียงพอ มีการว่าจ้างองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญระดับสากลจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาประเมินเพื่อออกใบรับรองธุรกิจการบินต่างๆ รวมทั้งการสร้างความร่วมมือ EASA เพื่อจะยกระดับการดูแลความปลอดภัยในการบินพลเรือนระยะยาว ทั้งหมดนั้นอยู่ในขั้นตอนการเตรียมพร้อม ที่จะรับการประเมินจาก ICAO ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 - มีนาคม 2560
ทั้งนี้ ICAO ได้ชื่นชมเห็นในความพยายามของไทยมารัฐบาลไทยได้เอาจริงเอาจังดี มีวิสัยทัศน์ที่ดีในการแก้ไขปัญหามีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลืออย่างพร้อมเพียง พร้อมทั้งให้กำลังใจให้ดำเนินการให้สำเร็จ เพื่อจะรองรับการเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค เราต้องช่วยกันนะครับ ไม่งั้นมันไปไม่ได้ และวันนี้ก็เราไม่ได้ทำเพราะว่าเขาบังคับเรา เราเป็นคนที่ต้องทำตามระเบียบเพราะเราต้องเชื่อมโยงกับเขา และอีกประการหนึ่งเพื่อความปลอดภัย ทำเพื่อคนไทย เพื่อศักดิ์ศรีของความเป็นไทย เหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้เอามาคิดทั้งหมดนะครับ
ล่าสุดสายการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติก็ได้รับรางวัลระดับดีที่หนึ่งนะครับ ประเภทสายการบินที่มีการปรับปรุงคุณภาพ ในเรื่องของการบริการเป็นดีขึ้นมากที่สุด และเป็นอันดับที่หนึ่งประเภทสายการบินที่ให้บริการบาร์เลานจ์ยอดเยี่ยม ก็ผลจากการสำรวจความพึงพอใจของนักเดินทางทุกคนทั่วโลก ระหว่างเดือนสิงหาคม 2558 - พฤษภาคม 2559 โดยสกายแทรกซ์
นอกจากนั้นก็จะมีได้ 1 ใน 3 ของสายการบินที่ให้บริการอาการสำหรับชั้นประหยัดยอดเยี่ยม เป็นสายการบินที่มีพนักงานให้บริการยอดเยี่ยมของเอเชีย และเป็นสายการบินที่ให้บริการภาคพื้นดินในสนามบินยอดเยี่ยม ทั้งนี้เป็นผลมาจากการทำงานเพื่อปฏิรูปองค์กรตามแผนปฏิรูปของบุคลากรทั้งหมดที่อยู่ในบริษัท ช่วยกันทุกคนทุกระดับ ผมทราบมาว่าทุกคนเหนื่อยในช่วงมี่ผ่านมา มันมีผลสำเร็จมากขึ้นตามลำดับต้องช่วยกันต่อไปนะครับ สหภาพต่างๆ ขอกรุณาได้เข้าใจ ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้มันล้ม แล้วเราจะไปทำงานที่ไหน ต้องคอยช่วยกันร่วมมือกันมันถึงจะมีรายได้กลับเข้ามา มันก็จะเพิ่มรายได้ให้พวกเรา อย่าไปทำลายหม้อข้าวตัวเองอย่างที่ว่าทุกที่นะครับ ทุกสหภาพช่วยกันดูด้วย อย่าไปเร่งรัดจนกระทั่งผู้ใหญ่ล้มเหลวไปทั้งหมด ท่านก็จะไม่มีงานทำคือปัญหาที่ผมเป็นห่วง
เพราะงั้นรัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศก็อยู่ในระยะที่ 2 ผมก็พูดมาหลายครั้ง และก็มีในเรื่องการปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพของบริษัทอันนี้ก็เป็นการฟื้นฟูระยะที่ 2 ของการบินไทยเหมือนกัน จะต้องขอบคุณทุกด้านเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน ความเป็นเลิศในการทำการลู่ค้า หลายเรื่องเราทำต่ออีกการที่จะเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินอะไรก็แล้วแต่อีกมากมาย กิจการของหอบัญชาการบินไทย ขอแสดงความยินดีกับบริษัทการบินไทย ไม่ว่าจะเป็นบอร์ด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหาร ระดับพนักงาน ลูกจ้างอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนให้ประสบความสำเร็จให้เร็วที่สุด
สุดท้ายนี้ผมอยากจะฝากความในใจ ฝากถึงพี่น้องประชาชนคนไทยด้วย ทุกภาคส่วน ทุกอาชีพ ทุกรายได้ ได้มองปัจจุบันและอนาคต ท่านต้องย้อนกลับไปที่อดีตก่อนอย่าพึ่งลืม ลืมสิ่งที่มันผ่านมาไม่นานนักหรอกก่อน 22 พฤษภาฯ 57 เราต้องเอาอดีตเหล่านั้นมาเป็นบทเรียน ในช่วง 58 59 60 เป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านนะครับ เตรียมการวางรากฐานไว้ให้ ซึ่งในช่วงรอยต่อนี้จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศระยะยาว มีผลสืบเนื่องในอนาคต คือหลังจากปี 60 เป็นต้นไป ตามแผนของสภาพัฒน์ 60-64 นั่นแหละ สิ่งต่างๆ ที่เป็นปัญหาในอดีต เราทุกคนต้องช่วยกันว่าจะต้องย้อนกลับมาอีก อยากให้ทุกคนคิดว่าแล้วมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็ฝากนักการเมืองที่ดีๆ ทุกพรรค ทุกคน ทุกกลุ่ม ได้กรุณาช่วยกันคิดดังๆ ออกมา อย่าพูดอย่างเดียว ช่วยคิดด้วย คิดดังๆ ออกมาว่า อะไรที่นอกจากคำว่าประชาธิปไตยที่ผมไม่ได้ขัดแย้งกับท่าน หรือคำว่าเสียงเรียกร้องประชาชน ประชาชาที่ว่ายังไง ที่เขาร้องมาแล้วท่านจะทำอย่างไร เพื่อให้ 2 คำนั้นมีความหมายตามที่ท่านพูดออกมา
เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสเมื่อไรกรุณาพูดออกมา สื่อสารกับประชาชน ท่านไม่ต้องบอกผมหรอกว่าท่านจะทำอะไร เมื่อท่านเข้ามาบริหารราชการ อะไรที่จะทำให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อะไรที่จะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ทำให้ประชาชนแบ่งฝ่าย เหล่านี้ โดยเป็นเห็นผลทางการเมือง ในทุกกลุ่มงานท่านต้องตอบออกมา เล่าให้เขาฟังเหมือนที่ผมเล่าอยู่ทุกวันนี้ 2 ปีมาแล้ว
1.ความมั่นคง เศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข การแก้ปัญหาความยากจน การลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างความเข้มแข็งของประเทศ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบ้านเมืองเรากับทุกประเทศที่เขาพยายามเร่งพัฒนาในภูมิภาคเดียวกันกับเราด้วย อาเซียนด้วย ผมก็ฟังปัญหาต่างๆ มาจากประชาชน วันนี้ก็ยังมีความมั่นใจอยู่ในการทำงานของรัฐบาลที่ทำอยู่ แต่เขาไม่แน่ใจกับการทำงานของนักการเมือง นี่แหละคือผมเป็นห่วง ผมเองก็ไม่ใช่ศัตรูของท่าน
เพราะฉะนั้นเขาเป็นห่วงกับการทำงานของท่านในอนาคต ช่วยกันทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกับท่าน ไม่อยากให้มองแต่คอยจับผิด อะไรที่ยังไม่สำเร็จก็กำลังแก้ไขอยู่ ท่านก็จับผิดเล็กๆ น้อยๆ รอยต่อช่องว่างเล็กๆ น้อยๆ ก็แก้ไปสิครับ ในเมื่อเราวางเป้าหมายแล้วก็ต้องเดินตาม แล้วก็แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างที่เราเดิน เดินทางมันก็มีอุปสรรคมากมาย แต่ถ้ามาติอะไรที่กำลังเดินอยู่กำลังแก้อยู่ มันไปไม่ได้หรอก ต้องช่วยกัน หลายอย่างท่านก็ทำไว้แล้ว หลายอย่างท่านก็ยังทำไม่สำเร็จ ผมก็มาทำต่อมาแก้ไขให้มันดีขึ้น ปัญหาต่างๆ ที่ต้องแก้ไขมากมายบางอย่างท่านก็สร้างเอาไว้ ผมก็ต้องมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ ทั้งนักการเมือง ทั้งทหาร ทั้งรัฐบาล ทั้ง คสช.แหละ วันนี้จากวันนี้เป็นต้นไปมันจะต้องช่วยกันทำให้ประเทศชาติดีขึ้น ไม่ใช่มาขัดแย้งกันด้วยประชาธิปไตย ลงประชามติเลือกตั้งนู่นนี่ พูดมา 2 ปีแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นท่านพูดอะไรใหม่ๆ บ้างเลยว่า เอ๊ะท่านจะทำอะไรเมื่อท่านเข้ามา ประชาชนเขารอฟังอยู่ ก็ไม่อยากให้ติติงอย่างเดียวในสิ่งต่างๆ ที่ยังไม่สำเร็จ ที่ผ่านมาท่านอาจจะไม่ให้ความสนใจมากนัก ปล่อยปะละเลยบ้างอะไรบ้าง หรือไม่อยากจะทำ ไม่คิดจะทำ เหล่านี้ผมว่ามันไม่ใช่การติเพื่อก่อ เป็นการแสดงความเห็นที่บริสุทธิ์ใจ เพราะว่ามันมีปัญหาทำให้เกิดปัญหา
เพราะฉะนั้นจึงมองได้แต่เพียงความเพียรพยายามที่จะทำเรื่องผิดๆ ให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด โดยอาศัยความไม่รู้เท่าทันของหลายภาคส่วน ทั้งนี้ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ของรัฐบาล และ คสช. ร่วมกับประชาชนนั้น ก็คาดหวังกับคำที่กล่าวที่นักการเมืองพูดเสมอว่า เราจะต้องเป็นประชาธิปไตย ฉะนั้นท่านก็ช่วยอธิบายว่า ท่านจะเป็นยังไงในประชาธิปไตยของท่าน การมีธรรมาภิบาลของท่านนั้นคืออะไร จะทำอะไรบ้างที่ให้ประชาชน ถ้าทำไปแล้ว รัฐสวัสดิการจะใช้จ่ายงบประมาณจากไหน จะหาเงินอย่างไร ระบบเศรษฐกิจท่านจะมีรายได้ประเทศอย่างไร เพราะที่ผมเข้ามามันไม่มีเรื่องพวกนี้ไง มีแต่การใช้จ่ายที่มันค่อนข้างจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ถ้าไม่แก้ไขวันนี้ ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านตรงนี้ไม่ช่วยกันก็ไปไม่ได้หมด ประชาชนก็เดือดร้อน ขอร้องนะครับ ประชาชนต้องเข้าใจว่า เราอ่อนแอ อ่อนแอมา เรารอเขามานานแล้ว วันนี้เรากำลังทำอยู่ 3 ปีเท่านั้นเอง ก็ต้องทำให้สำเร็จ อยากให้รัฐบาลของผมกับ คสช. และประชาชนที่เขาคาดหวัง เขาอยากจะฟังว่า ที่ท่านว่าประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตย แต่เพียงอย่างเดียวนั้น โดยไม่พูดเรื่องอื่น ผมถึงบอกว่าต้องเล่าให้เขาฟังบ้างนะ ผู้คนสับสนอลหม่านหมดเลย ทำประชามติเขาวุ่นไปหมด มันอาจจะทำให้ประเทศไทยไม่มีเสถียรภาพอย่างที่ต่างประเทศเป็นห่วงกังวล แต่ผมยืนยันว่าผมจะรักษาเสถียรภาพให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท่านด้วยว่า จะทำให้ประชาชนสงบลงได้อย่างไร สื่อ โซเชียลมีเดีย ไม่อยากให้ทุกอย่างมันกลายเป็นว่า ผมมาทำให้ท่านขัดแย้งกันมากขึ้นอีก ผมต้องการมาสงบความขัดแย้งแล้วก็แก้ไขปัญหาที่ท่านทำกันไว้ ผมเรียนแล้วว่ามีทั้งดี และมีปัญหา เพราะฉะนั้นผมไม่อยากกล่าวโทษใครทั้งหมดหรอกครับ ท่านจะตำหนิติเตียนอะไรผมก็ยอมรับได้หมดอยู่แล้วแหละ ไม่เป็นไรผมไม่โกรธหรอก อย่าทำให้สถานการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกก็แล้วกัน ที่เกิดขึ้นในปี 57 นั้นแล้วก็มีการปฏิวัติรัฐประหาร และทุกๆ ครั้งที่ผ่านมานั้น ถ้าทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว ประชาชนมีความสุข มีการบริหารที่โปร่งใส มันคงไม่มีการประท้วง ไม่มีการขยายการประท้วงให้รุนแรงขึ้น มีภาพความรุนแรงใช้อาวุธสงคราม เกลียดชัง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายจนชัดเจนไปหมด ที่ผ่านมาโดยการสร้างวาทกรรม
เพราะฉะนั้นถ้ามันดีอยู่แล้วใครจะกล้าเข้ามาปฏิวัติ รัฐประหาร ผมว่าประชาชนไม่ยอมหรอกครับ และผมก็ไม่ทำร้ายประชาชนอยู่แล้ว แต่ผมทำให้มันสงบ ทำให้ประเทศเข้มแข็ง เพราะฉะนั้นทุกอย่างถ้าใช้วาทกรรมอย่างเดียวก็ทะเลาะกันไม่เลิก ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผลในการทำ ในการกระทำในตัวของมันเองด้วย
อีกประการหนึ่งฝากถึงพี่น้องประชาชน ท่านต้องเปิดใจยอมรับ การกำหนดเป้าหมายในชีวิตที่ต้องการ ตนทราบดีว่าประชาชนต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม มีรายได้ที่สูงขึ้น มีอาชีพที่ดี เป็นหลักเป็นแหล่งยั่งยืน และต้องการความมีระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่ท่านก็ต้องพร้อมกับปรับตัว ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังทำรวมกับเรากันอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องการจัดระเบียบ เรื่องอะไรต่างๆ ที่เคยปล่อยปละละเลยเรื่องกฎหมายมา มันต้องปรับเข้าที่เข้าทาง การขายของผมรู้ว่าท่านเดือดร้อน แต่มันจะทำยังไงได้ ถ้าเราต้องการสิ่งที่เรามองงในอนาคต สิ่งที่เราจะต้องเข้มแข็ง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีรายได้ที่ทั่วถึงเป็นธรรม การประกอบการต่างๆ ไม่มีการทุจริตมันก็จะลำบากกันตอนนี้ ท่านลองนึกสิครับ ท่าน ต้องค้าขายในที่ผิดกฎหมายมามันก็นาน เป็นสิ่งที่คุ้นเคย พอเราขยับตรงนี้หน่อย ประชาชนก็บอกไม่สะดวกสบายกันเหมือนเดิมอีก รถตู้ไกลก็ต้องไกล แต่ก็ต้องให้การบริการในช่วงนี้มันผ่านไป เราจะทำอย่างไร มีรถรับ-ส่ง ได้ไหม รถในพื้นทีปริมณฑลกับต่างจังหวัด มันก็ไม่ไกลกัน หาทางออกให้ได้สิ โดยที่ไม่ทำให้กฎหมายเสียหาย ตอนนี้ผมก็ทราบ จากท่านรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังหารือประชุมในเรื่องนี้ สั่งการไปในขั้นต้นแล้ว หากทุกคนต้องการความสะดวกสบายเหมือนเดิม ต้องการความไร้ระเบียบไร้กฎหมายเหมือนเดิม มันไม่มีทางได้สิ่งใหม่ๆ มา เราต้องยอมรับความจริง มันยากลำบาก แต่มันนำไปสู่ความสะดวกสบายในอนาคต สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ใหม่ๆ ที่ท่านต้องการกำลังรออยู่ ท่านต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ อย่าขัดแย้งกับเราอีกเลย ขอให้ทุกอย่างเป็นไปโดยความเรียบร้อย ขอพระคุณครับ สวัสดีครับ ขอให้มีความสุขตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ สวัสดีครับ
ก็เหมือนกับที่ผมเคยกล่าวหายครั้งแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่านก็ทรงรับสั่งของเสมอว่า ขอให้คนไทยนั้นได้เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ เรามีประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรามาทั้งเรื่องภาษา วัฒนธรรม ประเพณีอันงดงาม เราก็อย่าทิ้งของเดิม จะเดินไปข้างหน้าก็กลับมาดูของเดิมไว้ด้วย รักษาไว้ให้ได้
จากการติดตามข่าวสารด้านการศึกษาของลูกหลานเราในห้วงเดือนกรกฎาคมนี้ เราก็มีนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันต่าง ๆ นานาชาติ ที่กำลังเกี่ยวพันกับแนวทางการศึกษาที่เรียกว่าสเต็มศึกษา (STEM) อันได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ โดยประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เช่น อันที่ 1.การแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระหว่างประเทศที่ประเทศเวียดนาม ได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2.การแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ ณ ประเทศมาเลเซีย ของนักเรียน ป.1-ม.3 จำนวน 63 คน สามารถคว้าชัยได้ถึง 27 เหรียญทอง และรางวัลอื่น ๆ อีก รวมทั้งสิ้น 57 รางวัล ไม่ใช่น้อยเลยนะครับ น่าภาคภูมิใจแทนเด็กเขา 3.การแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาจำนวน 6 คน สามารถคว้าได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 12 จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 109 ประเทศ มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 602 คน ไม่ใช่ธรรมดา 4.การแข่งขันประกวดสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์นานาชาติ ณ ประเทศจีน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาจำนวน 12 คน ชั้นละ 2 รางวัล และรางวัลอื่นๆอีกรวมทั้งสิ้น 8 รางวัล ที่น่าสนใจนะครับเป็นผลงานเครื่องช่วยเก็บพริกเกิดจากการที่เด็กอยากจะช่วยผู้ปกครองทำงานจนสามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการเก็บพริก จากเก็บนิ้วมือได้ 5 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ซึ่งถ้าเอาเครื่องมือที่เด็กๆคิดมาแล้วง่ายๆ สามารถเก็บพริกได้ 13 กิโลกรัมต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เหล่านี้เป็นต้น ผมก็ขอแสดงความยินดีและชื่นชม นักเรียน คณะครูอาจารย์ทุกท่านด้วยนะ สำหรับการที่จะพัฒนาการเรียนรู้สำคัญที่สุดคือครอบครัวนะครับ พ่อแม่จะต้องให้ความสำคัญ ในเรื่องนี้ด้วย
ในกรณีสเต็มศึกษา นั้น มันจะมีการเชื่อมโยง กับทุกอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ที่เราเรียนไปแล้วว่ามี 5 บวก 5 S-Curve มันจะเป็นจุดเริ่มต้น พาศูนย์กลางพัฒนาไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคต นอกจากความร่วมมือ ในตำราดังกล่าวแลว ผมอยากให้เด็กนักเรียน นักศึกษา ครู ให้ความสำคัญ กับความรู้รอบตัว ทุกคนต้องพร้อมเป็นนักเรียนด้วยกัน เริ่มจากสิ่งไหนที่ใกล้ตัว ยกตัวเช่น เม็ดพลาสติก โพลิเมอร์ โพลีคาร์บอเนต เป็นนวัตกรรมซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดโลก มีอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากมายหลายสาขา ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ ยานยนต์ การใช้รถยนต์ มอเตอร์ไซต์ หมวกกันน็อก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กีฬา สมาร์ทการ์ด รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพย์ เช่น เครื่องฟอกไต และหุ่นยนต์ต่าง ๆ ก็จะเห็นได้ ว่า ทุกอย่างนั้นจำเป็นต้องเริ่มต้น จาก เม็ดพลาสติก ทั้งสิ้น ต้อง การสะเต็มศึกษา เราต้องการ ผู้นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะย้อนไปสู่การทำงานที่หลากหลาย 1 อากให้รู้ว่าไทยนั้นเป็น 1 ใน 8 ศูนย์การผลิตเม็ดพลาสติก ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ตลอดปีที่ผ่านมาไทยผลิตเม็ดพลาสติก ป้อนตลาดโลก เกือบ 3 แสนเมตริกตัน แต่ก็น่าเสียดายที่เป็นการผลิตเม็ดพลาสติกขั้นต้น การแปรรูป การเพิ่มมูลค่าไปเกิดนอกประเทศ ไมได้เกิดในบ้านเรา ซึ่งเราถือว่าเป็นต้นทาง ฉะนั้นการแปรรูปไปสร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าอยู่ข้างนอกหมด เราก็สูญเสียโอกาส ที่จะสร้างงาน สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ ที่ยกตัวอย่างมานั้น เพราะอยากจะให้ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ช่วยกันให้ความสำคัญในการต่อยอด จากความรู้รอบตัว สถานการณ์โลก ภายใน ปัจจัยภายใน ภายนอก ของประเทศ ลูกหลานก็ได้ให้ความสนใจ เพราะการศึกษาไม่ใช่เพียงเพื่อใบปริญญาเป็นสำคัญอย่างเดียว เราต้องคิดถึงการประกอบอาชีพเพื่อจะเลี้ยงดูตนเอง ครอบครัว ต่อไปภายภาคหน้า และถ้าเรามองไปไกลกว่านั้น ก็คือการพัฒนาประเทศ ฉะนั้นเราต้องช่วยกันสร้างทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาโดยการช่วยชาติ สร้างความตระหนักรู้ในเรื่องความรู้รอบตัว และความคิดสร้างสรรค์ ให้กับลูกหลานของเราอย่างต่อเนื่องด้วย
ในเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันนั้น นอกจากจะเป็นการเพิ่มผลผลิตด้วยนวัตกรรมแล้ว หรือนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตแล้ว รัฐบาลก็ยังเน้นในเรื่องของการลดต้นทุนในการผลิตด้วย ในกิจกรรมต่างๆหลายตัวอย่างด้วยกัน เรื่องแรกคือการช่วยเหลือชาวนา ตามมาตรการลดค่าเช่านา ซึ่งอยู่ในเรื่องของการลดปัจจัยการผลิต ซึ่งจะเป็นต้นทุนการผลิตของเกษตรกรในฤดูกาลผลิตปี 59-60 รอบการทำนาปรัง ตั้งแต่มกราคม - มิถุนายน 59 โดยได้ดำเนินการมา 2 มาตรการ คือ 1.การควบคุมค่าเช่านา ไม่ให้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็มีผลดำเนินการทั้ง 4 ภาคของประเทศ ซึ่งมีผู้เช่านาทั้งสิ้นกว่า 350,000 ราย ในพื้นที่นา 9 ล้านกว่าไร่ สามารถควบคุมค่าเช่านาได้ 260,000 ราย และสามารถเจรจาลดค่าเช่านาได้ 1 แสนราย รวมเป็นเงินในการลดต้นทุนการผลิตในเรื่องค่าเช่านาให้กับเกษตรกรได้มากกว่า 48 ล้านบาท และขอความร่วมมือในการลด งดค่าเช่านาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถลดค่าเช่านาได้เกือบ 600 ราย ในพื้นที่ 7,000 ไร่ คิดเป็นเงิน 1 ล้านกว่าบาท และงดเก็บค่าเช่านาได้ 16 ราย ในพื้นที่ 266 ไร่ คิดเป็นเงิน 2 แสนกว่าบาท
ทั้งนี้ก็เป็นความร่วมมือของทุกฝ่าย ขอบคุณบรรดาผู้ให้เช่านาด้วยให้ความร่วมมือ เกษตรกรด้วยอะไรด้วย ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันอย่าเบียดเบียนกันในช่วงที่มีความยากลำบาก เราช่วยกันทำกุศล สามารถทำให้ชาวนาไทยนั้นลืมตาอ้าปากได้ มีรอยยิ้ม มีความสุขมากขึ้น
ในเรื่องที่ 2.คือเรื่องปรับลดขั้นตอนการส่งออกสินค้า อันนี้เป็นเรื่องของการอำนวยความสะดวก เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ อำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจด้วย เราได้นำร่องการลดขั้นตอนการส่งออก เช่น สินค้าข้าว ก็เกิดผลดีในทุกมิติ ได้แก่การพิจารณาขั้นตอนที่เกี่ยวกับระเบียบและกฎหมาย ตั้งแต่การยื่นคำขอ จนถึงการได้รับใบอนุญาต ใบรับรองลดลงกว่า 70% ส่งผลให้ย่นระยะเวลาในการดำเนินการลง 83% ค่าใช้จ่ายถูกลงมากกว่า 60% และลดเอกสารลง 45% เป็นการลดการใช้เอกสารที่เป็นกระดาษ ทั้งแบบฟอร์มคำขอ และเอกสารแนบ เพื่อจะนำระบบไอทีที่เราเรียกว่า ไอซีทีก็จะนำระบบการบันทึก และแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาใช้ รวมทั้งการยกเลิกบางขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนไม่จำเป็น ซึ่งในการส่งออกข้าวนั้นมี 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่หน่วยงานเดียว วันนี้ต้องทำความเข้าใจกันให้มาก มาตรการดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของรัฐบาลนี้ ในความพยายามที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การให้บริการภาครัฐด้วยมาตรการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจให้รวดเร็ว และโปร่งใส เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพในการแข่งขันของประเทศในภาพรวมอีกด้วย
ปีหน้านั้นเราต้องช่วยนำกันไปขยายผลกับสินค้าเกษตรอื่นๆ อีกด้วย เช่น น้ำตาล ยางพารา สินค้าแช่แข็ง เป็นต้น ผมเห็นว่าเวลานั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของต้นทุนการผลิต ถ้าเราลดเวลาลงไม่ได้มันจะเป็นตัวถ่วงในการทำธุรกิจ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็สิ้นเปลือง และชักช้าในการดำเนินการทำให้เป็นตัวถ่วงในการพัฒนาประเทศในภาพรวมเราก็เดินหน้าไปไม่ได้ แข่งขันกับใครไม่ได้ มีหลายเรื่องนะครับ เช่น ที่เราทำไปก็คือการจดทะเบียนธุรกิจ ซึ่งเดิมใช้เวลาเป็นแรมเดือน การทำอีไอเอใช้เวลาเป็นปี เราต้องช่วยกันแก้ไขปรับปรุง ทำอย่างไรมันถึงจะเดินไปได้ ถ้าต่างคนต่างไม่ยึดถือทางสายกลาง ทำให้ไม่เสียหายได้ด้วยกันทั้งคู่มันก็จะทำได้ ถ้าจะไปซ้ายทั้งหมดอย่างเดียวขวาอย่างเดียวก้ไม่ได้ ตามกฎหมายก็ว่ากันก่อนเราจะแก้ไขกันอย่างไร มันถึงจะเกิดผลผลิตขึ้นมา และจะเป็นผลสัมฤทธิ์ เราต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเร็วขึ้นทั้งหมด
ต่อไปเรื่องศูนย์ดำรงธรรมที่เรียกว่าสายด่วน 1567 ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เป็นวิวัฒนาการที่ดี ที่รัฐบาลนี้ และ คสช.ให้ความสำคัญตั้งแต่ปีแรกที่เราเข้ามา ในการที่เราจะปรับรูปแบบการให้บริการ การเข้าถึง การสื่อสารกับประชาชน ก็ถือว่าเป็นช่องทางการสื่อสารที่สำคัญที่รัฐบาลนี้ได้ใช้ดูแลทุกข์สุขของประชาชนทุกคนให้สามารถเข้าถึงการบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จภายในจุดเดียวตามแนวทางประชารัฐ และการบริการของรัฐในการทำงานต่างๆ นับตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2557 ตั้งแต่ตั้งมาจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นเวลา 2 ปีแล้วพี่น้องประชาชนก็มาร้องเรียนร้องทุกข์มีการใช้บริการทั้งในรูปแบบเบ็ดเสร็จ ณ ศูนย์บริการ หรือใช้สำหรับการส่งต่อ หรือในการที่เราจัดแบบหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ได้แก้ปัญหาเกือบ 3 ล้านราย และปัญหาต่างๆ ที่ว่านั้นถูกคลี่คลายได้รับการแก้ไขมากกว่า 96 เปอร์เซ็นต์
4 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นเรื่องของความซับซ้อนที่มันเป็นมายาวนาน มันต้องแก้หลายๆ อย่างด้วยกัน ก็ขอเวลาอีกสักหน่อยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เช่น ชาวบ้านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถูกไล่ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จัดหาพื้นที่ราชพัสดุ และร่วมกับเอกชนประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันสร้างบ้านให้
เรื่องที่ 2. ชุมชนในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร้องเรียนโรงงานที่ส่งเสียงดังมีกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้ลงพื้นที่ร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการแนะนำให้ปลูกต้นไม้ และใช้หลักวิชาการมาแก้ปัญหาเป็นต้น ทั้งนี้ผมอยากให้ศูนย์ดำรงธรรมเป็นมากกว่าช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างพี่น้องประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐ อยากให้เป็นศูนย์รวมทุกอย่างในการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน สอนมีกระบวนการเรียนรู้ด้วย เพื่อจะให้เกิดการลดความเลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยในการบริหารราชการแผ่นดิน และจะได้ให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา ไม่งั้นก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เหมือนคำกล่าวเดิมๆ วันนี้ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา หรือที่กล่าวกันว่า ธุระไม่ใช่ อย่าไปยุ่งดีกว่า อย่างนี้ไม่ได้แล้ว เพราะบ้านเมืองต้องการความสงบสุข ต้องช่วยกันดูแล ความเรียบร้อยทั่วไปของบ้านเมือง หน้าที่สำคัญคือการเฝ้าระวัง และแจ้งเบาะแสการทำผิดกฎหมาย เช่น บ่อนการพนัน แหล่งมั่งสุม เจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งต้องระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยให้คนแจ้งเขาด้วย ไม่งั้นเขาก็ไม่อยากจะยุ่ง ขอให้เป็นความลับ จะได้มีการช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ การบุกรุกป่า ไม่ใช่พอเขามาช่วยก็ถ่ายรูปออกทีวี ออกอะไรต่างๆ เขาก็อันตราย อีกหน่อยก็ไม่มีคนช่วย เรื่องการทิ้งขยะของเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะก็ช่วยกันตักเตือน เห็นใครทิ้งเดี๋ยวนั้น ก็ว่ากันเดี๋ยวนั้น ไม่ใช่ทะเลาะกัน บอกเขาว่า ช่วยเก็บกันอย่าทิ้งตรงนี้เลยก็แค่นี้เอง ถ้าทุกคนปล่อยปละละเลยไปเรื่อยๆ ไอ้ขยะเหล่านั้นมันก็กระจายไปทั่ว รถวิ่งไปวิ่งมามันก็ยิ่งสกปรก ช่วยกันตักเตือน ไม่ใช่ไปทำร้าย หรือไปว่ากล่าวให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันอีก
ฉะนั้นต่อไปนี้ข้าราชการก็คงจะต้องทำงานหนักขึ้น ผมทราบว่าหนักขึ้นมา 2 ปีแล้ว แล้วต้องเสียสละมากกว่าที่เคยมา ทั้งนี้ผมถือว่า เหงื่อของข้าราชการก็คือน้ำใจที่ให้กับประชาชน ทุ่มเทให้กับเขา โดยเฉพาะในช่วงของการที่เราจะเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคต ประเทศชาติเรานั้นต้องการคำว่า จิตสำนึก จิตสาธารณะ อุดมการณ์ ของการเป็นคนไทยเหล่านี้ต้องเกิดขึ้น ต้องมีอยู่ รื้อฟื้นไปเท่านั้นเอง เพราะว่าทุกคนนั้นจะได้ใช้เป็นแรงผลักดัน แรงขับเคลื่อนของประเทศ เพื่อพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ถ้ายกตัวอย่าง ก็เกาหลีใต้ เยอรมัน มีสงครามเกิดขึ้น มีความเสียหายมากมาย แต่เขาสามารถเร่งพัฒนาประเทศภายหลังสงครามได้โดยเร็ว ด้วยความอดทน ด้วยความร่วมมือกันทุกฝ่าย ความสบายอาจจะไม่ได้สร้างคนมากนัก แต่ความลำบากจะสร้างคนให้แข็งแกร่ง ประเทศเราก็เหมือนกัน เราอาจจะโชคดี ไม่เหมือนต่างประเทศเขา แต่เราต้องใช้ทุกอย่างที่เราเรียนรู้มาจากเพื่อนเราบ้าง มาช่วยกันปรับปรุง อย่าทำให้โอกาสที่เรามีอยู่แล้วมันสูญเสียไป เราทะเลาะกันอีกต่อไปไม่ได้แล้ว
เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ ผมก็กล่าวมาหลายครั้งแล้ว มันเป็นความหวังหนึ่ง ในการที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน อันนี้ไม่ใช่ผมคิดขึ้นมาเอง มันเป็นหลักการทางวิชาการด้วยอยู่แล้ว เอกสารวิจัย การเรียนในหลักสูตรต่างๆก็มีอยู่หมด ฉะนั้นเป็นแนวทางในการที่จะทำให้รัฐบาล หรือผู้บริหารประเทศ ได้มีการบริหารไปด้วยความโปร่งใส ตามหลักการทั้งหมด 9 ข้อ ของธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ผ่านความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน และใช้แนวทางของหลักเศรษฐกิจพอเพียงเหล่านี้ จำเป็นต้องรื้อฟื้นขึ้นมา
ฉะนั้นเราถึงจำเป็นที่ต้องบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายสูงสุดของประเทศ และมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่จะกำหนดยุทธศาสตร์ และมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกันกับยุทธศาสตร์ชาติ เช่น แผนพัฒนาฉบับที่ 12 ที่จะประกาศใช้ในเดือนตุลาคม 2559 นี้ ที่เราเรียกว่าแผน 6- 6 -4 หมายความถึงยุทธศาสตร์ 6 ร่าง ที่สอดคล้องกันกับยุทธศาสตร์แผนการพัฒนาในฉบับที่ 2 ใน 6 ด้าน อันได้แก่ ความมั่นคง เรื่องการเสริมสร้าง ความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศ สู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน 2.คือด้านเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และมีการแข่งขัน เพิ่มขีดความสามารถได้อย่างยั่งยืน 3.คือด้านสังคม เป็นการสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม 4.ด้านทรัพยากรมนุษย์ คือการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ 5.ด้านสิ่งแวดล้อม การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 6.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน คือการบริหารราชการในภาครัฐ การป้องกันการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการมีธรรมาภิบาลในสังคมไทย นอกจากนั้นเรายังมียุทธศาสตร์เพิ่มเติมใน 4 ด้าน ซึ่งจริงๆบรรจุอยู่ใน 6 เพื่อจะสนับสนุนให้ 6 ยุทธศาสตร์แรกบรรลุตามวัตถุประสงค์ ได้แก่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจะสนับสนุนเศรษฐกิจสังคม การแสดงความเจริญ การพัฒนาเมือง และพื้นที่ รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
อันที่ 2 ที่เสริมไว้คือการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม เน้นการเป็นเจ้าของเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆเองของคนไทย เพื่อจะเป็นการขับเคลื่อนภาคการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 3.คือการพัฒนาเมือง เศรษฐกิจ ที่รวมความไปถึงในพื้นที่ด้วย เราต้องพัฒนาทั้งภูมิภาค และในเขตพื้นที่เศรษฐกิจที่เรามีศักยภาพ เราต้องยกระดับทั้งหมด ตั้งแต่ฐานการผลิต และการบริการเดิมให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการขยายฐานใหม่ให้ความสำคัญกับการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม อันจะเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุก ที่จะขยายความเจริญ กระจายออกไป ยกระดับรายได้ของประชาชนอย่างเท่าเทียม ทุกภูมิภาคของประเทศ ไม่ใช่แค่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ภาคกลาง เมืองใหญ่มันแน่นขึ้นทุกวัน เราต้องสร้างสรรค์ในเชิงบวก มีระเบียบ ไม่อย่างนั้นคนก็จะเข้ามาในเมืองใหญ่ จนกระทั่ง มีปัญหาเรื่องการจราจร มีปัญหาเรื่องน้ำเสีย มากมาย มันก็ต้องกระจัดกระจายออกไป ไปอยู่ในพื้นที่ภูมิลำเนาบ้านเกิดกัน นักเรียน นักศึกษาก็ต้องมุ่งหวังเพื่อที่จะได้ไปพัฒนาบ้านตัวเองดีกว่า รัฐบาลมุ่งเน้นอย่างนั้น
4.ความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อที่จะให้เกิดการพัฒนาเชื่อมโยงกันในกลุ่มประเทศ ที่ผมว่าไปแล้วคือ CMLVT อาเซียน และ โลก เพราะเราอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าเดียวกัน มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เราอพยพย้ายที่เราไม่ได้ ทุกประเทศย้ายที่ไม่ได้หมด ที่ผ่านมานั้น เราก็ได้ ร่วมการเป็นภาคี ลงสัตยาบันให้ข้อรับรองกับต่างประเทศหลายเรื่องด้วยกันที่ผ่านมา แต่อาจไม่สามารถปฏิบัติตามได้ทั้งหมด เพราะว่าไม่สามารถออกกฎหมาย เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมได้ เพราะว่าที่ผ่านมาท่านก็ทราบดีอยู่กฎหมายบางกฎหมายมันออกไม่ได้เลย รัฐบาลนี้ดำเนินได้จนสำเร็จ มันก็มีคนขัดแย้ง ไม่เห็นด้วย เห็นด้วยแล้วแต่ แต่เราจำเป็น ไม่อย่างนั้นเราก็อยู่ในโลกใบนี้ไม่ได้ เราจำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้เกิดความเชื่อมั่นในเวทีโลก เช่น พ.ร.บ.ความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าฉบับที่ 3 ตามพิธีสารมาดริด พ.ร.บ.ป้องกันการฟอกเงินฉบับที่ 5 ตามข้อตกลงป้องกันการฟอกเงิน กรมศุลกากรฉบับที่ 22 ตามข้อตกลงการขนส่งข้ามพรมแดน ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน พ.ร.บ. ป้องกันการปราบปรามและการค้ามนุษย์ฉบับที่ 2 ตามความตกลงการค้าค้ามนุษย์ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การสนับสนุนการก่อการร้าย ตามสัญญาการก่อการร้าย เป็นต้น
เหล่านี้ยังมีอีกมากมาย ตัวอย่างปัญหาการเชื่อมโยงกับนานาอารยประเทศ รัฐบาลนี้ได้เร่งรัด ดำเนินการแก้ไข ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ก็มีความก้าวหน้า มีผลความสำเร็จอยู่บ้าง คือเป็นขั้นเป็นตอนเป็นลำดับ ต้องยอมรับอันที่ 1 คือการแก้ปัญหา งาช้าง ตามอนุสัญญาการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ที่เรียกว่า ไซเตส ซึ่งการออก พ.ร.บ.สัตว์สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ร.บ.งาช้าง และปรับปรุงแผนงาช้างแห่งประเทศไทย ทำให้รอดรอดพ้นการถูกคว่ำบาตรการค้าจากไซเตส ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายของประเทศไม่น้อยกว่า 47,000 ล้านบาทต่อปี
2.การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้วยการออก พ.ร.บ.ป้องกันการปราบปรามและการค้ามนุษย์ฉบับที่ 2 ได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ดำเนินคดี การคัดแยก ฟ้องผู้เสีย และการคุ้มครองป้องกันกลุ่มเสี่ยงก็มีความคืบหน้า ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ปรับระดับรายงานการค้ามนุษย์ 2559 ให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู ของทางอียู เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกันสินค้าประมง เรามีมูลค่าการส่งออกกว่า 240,000 ล้านบาทต่อปี ก็ต้องช่วยกันเสียสละกันหน่อย แต่ช่วงนี้อาจจะลำบากหน่อยสำหรับผู้ประกอบการและชาวประมงเหล่านี้
อันที่ 3. คือการแก้ไขการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ก็มีความก้าวหน้าตามลำดับ ตามแผนปฏิบัติการที่สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศไทยได้จัดทำขึ้น มีการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การออกพระราชบัญญัติกำหนดจัดตั้งสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยขึ้น (กพท.) มีการเจรจาลงนามกับ EASA เรื่องขอบเขตของงานและความร่วมมือ รวมทั้งมีการแจ้งหลายละเอียดกับสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยจะดำเนินการต่อไปนะครับตามห้วงและเวลา มีการคัดสรรบรรจุบุคลากรตามโครงสร้าง กพท.ในทุกด้าน มีการฝึกอบรมผู้ตรวจสอบความปลอดภัยในการบิน และมาตรฐานความปลอดภัยด้านอื่นๆ ให้เพียงพอ มีการว่าจ้างองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญระดับสากลจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาประเมินเพื่อออกใบรับรองธุรกิจการบินต่างๆ รวมทั้งการสร้างความร่วมมือ EASA เพื่อจะยกระดับการดูแลความปลอดภัยในการบินพลเรือนระยะยาว ทั้งหมดนั้นอยู่ในขั้นตอนการเตรียมพร้อม ที่จะรับการประเมินจาก ICAO ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 - มีนาคม 2560
ทั้งนี้ ICAO ได้ชื่นชมเห็นในความพยายามของไทยมารัฐบาลไทยได้เอาจริงเอาจังดี มีวิสัยทัศน์ที่ดีในการแก้ไขปัญหามีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลืออย่างพร้อมเพียง พร้อมทั้งให้กำลังใจให้ดำเนินการให้สำเร็จ เพื่อจะรองรับการเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค เราต้องช่วยกันนะครับ ไม่งั้นมันไปไม่ได้ และวันนี้ก็เราไม่ได้ทำเพราะว่าเขาบังคับเรา เราเป็นคนที่ต้องทำตามระเบียบเพราะเราต้องเชื่อมโยงกับเขา และอีกประการหนึ่งเพื่อความปลอดภัย ทำเพื่อคนไทย เพื่อศักดิ์ศรีของความเป็นไทย เหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้เอามาคิดทั้งหมดนะครับ
ล่าสุดสายการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติก็ได้รับรางวัลระดับดีที่หนึ่งนะครับ ประเภทสายการบินที่มีการปรับปรุงคุณภาพ ในเรื่องของการบริการเป็นดีขึ้นมากที่สุด และเป็นอันดับที่หนึ่งประเภทสายการบินที่ให้บริการบาร์เลานจ์ยอดเยี่ยม ก็ผลจากการสำรวจความพึงพอใจของนักเดินทางทุกคนทั่วโลก ระหว่างเดือนสิงหาคม 2558 - พฤษภาคม 2559 โดยสกายแทรกซ์
นอกจากนั้นก็จะมีได้ 1 ใน 3 ของสายการบินที่ให้บริการอาการสำหรับชั้นประหยัดยอดเยี่ยม เป็นสายการบินที่มีพนักงานให้บริการยอดเยี่ยมของเอเชีย และเป็นสายการบินที่ให้บริการภาคพื้นดินในสนามบินยอดเยี่ยม ทั้งนี้เป็นผลมาจากการทำงานเพื่อปฏิรูปองค์กรตามแผนปฏิรูปของบุคลากรทั้งหมดที่อยู่ในบริษัท ช่วยกันทุกคนทุกระดับ ผมทราบมาว่าทุกคนเหนื่อยในช่วงมี่ผ่านมา มันมีผลสำเร็จมากขึ้นตามลำดับต้องช่วยกันต่อไปนะครับ สหภาพต่างๆ ขอกรุณาได้เข้าใจ ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้มันล้ม แล้วเราจะไปทำงานที่ไหน ต้องคอยช่วยกันร่วมมือกันมันถึงจะมีรายได้กลับเข้ามา มันก็จะเพิ่มรายได้ให้พวกเรา อย่าไปทำลายหม้อข้าวตัวเองอย่างที่ว่าทุกที่นะครับ ทุกสหภาพช่วยกันดูด้วย อย่าไปเร่งรัดจนกระทั่งผู้ใหญ่ล้มเหลวไปทั้งหมด ท่านก็จะไม่มีงานทำคือปัญหาที่ผมเป็นห่วง
เพราะงั้นรัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศก็อยู่ในระยะที่ 2 ผมก็พูดมาหลายครั้ง และก็มีในเรื่องการปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพของบริษัทอันนี้ก็เป็นการฟื้นฟูระยะที่ 2 ของการบินไทยเหมือนกัน จะต้องขอบคุณทุกด้านเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน ความเป็นเลิศในการทำการลู่ค้า หลายเรื่องเราทำต่ออีกการที่จะเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินอะไรก็แล้วแต่อีกมากมาย กิจการของหอบัญชาการบินไทย ขอแสดงความยินดีกับบริษัทการบินไทย ไม่ว่าจะเป็นบอร์ด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหาร ระดับพนักงาน ลูกจ้างอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนให้ประสบความสำเร็จให้เร็วที่สุด
สุดท้ายนี้ผมอยากจะฝากความในใจ ฝากถึงพี่น้องประชาชนคนไทยด้วย ทุกภาคส่วน ทุกอาชีพ ทุกรายได้ ได้มองปัจจุบันและอนาคต ท่านต้องย้อนกลับไปที่อดีตก่อนอย่าพึ่งลืม ลืมสิ่งที่มันผ่านมาไม่นานนักหรอกก่อน 22 พฤษภาฯ 57 เราต้องเอาอดีตเหล่านั้นมาเป็นบทเรียน ในช่วง 58 59 60 เป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านนะครับ เตรียมการวางรากฐานไว้ให้ ซึ่งในช่วงรอยต่อนี้จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศระยะยาว มีผลสืบเนื่องในอนาคต คือหลังจากปี 60 เป็นต้นไป ตามแผนของสภาพัฒน์ 60-64 นั่นแหละ สิ่งต่างๆ ที่เป็นปัญหาในอดีต เราทุกคนต้องช่วยกันว่าจะต้องย้อนกลับมาอีก อยากให้ทุกคนคิดว่าแล้วมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็ฝากนักการเมืองที่ดีๆ ทุกพรรค ทุกคน ทุกกลุ่ม ได้กรุณาช่วยกันคิดดังๆ ออกมา อย่าพูดอย่างเดียว ช่วยคิดด้วย คิดดังๆ ออกมาว่า อะไรที่นอกจากคำว่าประชาธิปไตยที่ผมไม่ได้ขัดแย้งกับท่าน หรือคำว่าเสียงเรียกร้องประชาชน ประชาชาที่ว่ายังไง ที่เขาร้องมาแล้วท่านจะทำอย่างไร เพื่อให้ 2 คำนั้นมีความหมายตามที่ท่านพูดออกมา
เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสเมื่อไรกรุณาพูดออกมา สื่อสารกับประชาชน ท่านไม่ต้องบอกผมหรอกว่าท่านจะทำอะไร เมื่อท่านเข้ามาบริหารราชการ อะไรที่จะทำให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อะไรที่จะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ทำให้ประชาชนแบ่งฝ่าย เหล่านี้ โดยเป็นเห็นผลทางการเมือง ในทุกกลุ่มงานท่านต้องตอบออกมา เล่าให้เขาฟังเหมือนที่ผมเล่าอยู่ทุกวันนี้ 2 ปีมาแล้ว
1.ความมั่นคง เศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข การแก้ปัญหาความยากจน การลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างความเข้มแข็งของประเทศ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบ้านเมืองเรากับทุกประเทศที่เขาพยายามเร่งพัฒนาในภูมิภาคเดียวกันกับเราด้วย อาเซียนด้วย ผมก็ฟังปัญหาต่างๆ มาจากประชาชน วันนี้ก็ยังมีความมั่นใจอยู่ในการทำงานของรัฐบาลที่ทำอยู่ แต่เขาไม่แน่ใจกับการทำงานของนักการเมือง นี่แหละคือผมเป็นห่วง ผมเองก็ไม่ใช่ศัตรูของท่าน
เพราะฉะนั้นเขาเป็นห่วงกับการทำงานของท่านในอนาคต ช่วยกันทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกับท่าน ไม่อยากให้มองแต่คอยจับผิด อะไรที่ยังไม่สำเร็จก็กำลังแก้ไขอยู่ ท่านก็จับผิดเล็กๆ น้อยๆ รอยต่อช่องว่างเล็กๆ น้อยๆ ก็แก้ไปสิครับ ในเมื่อเราวางเป้าหมายแล้วก็ต้องเดินตาม แล้วก็แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างที่เราเดิน เดินทางมันก็มีอุปสรรคมากมาย แต่ถ้ามาติอะไรที่กำลังเดินอยู่กำลังแก้อยู่ มันไปไม่ได้หรอก ต้องช่วยกัน หลายอย่างท่านก็ทำไว้แล้ว หลายอย่างท่านก็ยังทำไม่สำเร็จ ผมก็มาทำต่อมาแก้ไขให้มันดีขึ้น ปัญหาต่างๆ ที่ต้องแก้ไขมากมายบางอย่างท่านก็สร้างเอาไว้ ผมก็ต้องมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ ทั้งนักการเมือง ทั้งทหาร ทั้งรัฐบาล ทั้ง คสช.แหละ วันนี้จากวันนี้เป็นต้นไปมันจะต้องช่วยกันทำให้ประเทศชาติดีขึ้น ไม่ใช่มาขัดแย้งกันด้วยประชาธิปไตย ลงประชามติเลือกตั้งนู่นนี่ พูดมา 2 ปีแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นท่านพูดอะไรใหม่ๆ บ้างเลยว่า เอ๊ะท่านจะทำอะไรเมื่อท่านเข้ามา ประชาชนเขารอฟังอยู่ ก็ไม่อยากให้ติติงอย่างเดียวในสิ่งต่างๆ ที่ยังไม่สำเร็จ ที่ผ่านมาท่านอาจจะไม่ให้ความสนใจมากนัก ปล่อยปะละเลยบ้างอะไรบ้าง หรือไม่อยากจะทำ ไม่คิดจะทำ เหล่านี้ผมว่ามันไม่ใช่การติเพื่อก่อ เป็นการแสดงความเห็นที่บริสุทธิ์ใจ เพราะว่ามันมีปัญหาทำให้เกิดปัญหา
เพราะฉะนั้นจึงมองได้แต่เพียงความเพียรพยายามที่จะทำเรื่องผิดๆ ให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด โดยอาศัยความไม่รู้เท่าทันของหลายภาคส่วน ทั้งนี้ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ของรัฐบาล และ คสช. ร่วมกับประชาชนนั้น ก็คาดหวังกับคำที่กล่าวที่นักการเมืองพูดเสมอว่า เราจะต้องเป็นประชาธิปไตย ฉะนั้นท่านก็ช่วยอธิบายว่า ท่านจะเป็นยังไงในประชาธิปไตยของท่าน การมีธรรมาภิบาลของท่านนั้นคืออะไร จะทำอะไรบ้างที่ให้ประชาชน ถ้าทำไปแล้ว รัฐสวัสดิการจะใช้จ่ายงบประมาณจากไหน จะหาเงินอย่างไร ระบบเศรษฐกิจท่านจะมีรายได้ประเทศอย่างไร เพราะที่ผมเข้ามามันไม่มีเรื่องพวกนี้ไง มีแต่การใช้จ่ายที่มันค่อนข้างจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ถ้าไม่แก้ไขวันนี้ ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านตรงนี้ไม่ช่วยกันก็ไปไม่ได้หมด ประชาชนก็เดือดร้อน ขอร้องนะครับ ประชาชนต้องเข้าใจว่า เราอ่อนแอ อ่อนแอมา เรารอเขามานานแล้ว วันนี้เรากำลังทำอยู่ 3 ปีเท่านั้นเอง ก็ต้องทำให้สำเร็จ อยากให้รัฐบาลของผมกับ คสช. และประชาชนที่เขาคาดหวัง เขาอยากจะฟังว่า ที่ท่านว่าประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตย แต่เพียงอย่างเดียวนั้น โดยไม่พูดเรื่องอื่น ผมถึงบอกว่าต้องเล่าให้เขาฟังบ้างนะ ผู้คนสับสนอลหม่านหมดเลย ทำประชามติเขาวุ่นไปหมด มันอาจจะทำให้ประเทศไทยไม่มีเสถียรภาพอย่างที่ต่างประเทศเป็นห่วงกังวล แต่ผมยืนยันว่าผมจะรักษาเสถียรภาพให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท่านด้วยว่า จะทำให้ประชาชนสงบลงได้อย่างไร สื่อ โซเชียลมีเดีย ไม่อยากให้ทุกอย่างมันกลายเป็นว่า ผมมาทำให้ท่านขัดแย้งกันมากขึ้นอีก ผมต้องการมาสงบความขัดแย้งแล้วก็แก้ไขปัญหาที่ท่านทำกันไว้ ผมเรียนแล้วว่ามีทั้งดี และมีปัญหา เพราะฉะนั้นผมไม่อยากกล่าวโทษใครทั้งหมดหรอกครับ ท่านจะตำหนิติเตียนอะไรผมก็ยอมรับได้หมดอยู่แล้วแหละ ไม่เป็นไรผมไม่โกรธหรอก อย่าทำให้สถานการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกก็แล้วกัน ที่เกิดขึ้นในปี 57 นั้นแล้วก็มีการปฏิวัติรัฐประหาร และทุกๆ ครั้งที่ผ่านมานั้น ถ้าทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว ประชาชนมีความสุข มีการบริหารที่โปร่งใส มันคงไม่มีการประท้วง ไม่มีการขยายการประท้วงให้รุนแรงขึ้น มีภาพความรุนแรงใช้อาวุธสงคราม เกลียดชัง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายจนชัดเจนไปหมด ที่ผ่านมาโดยการสร้างวาทกรรม
เพราะฉะนั้นถ้ามันดีอยู่แล้วใครจะกล้าเข้ามาปฏิวัติ รัฐประหาร ผมว่าประชาชนไม่ยอมหรอกครับ และผมก็ไม่ทำร้ายประชาชนอยู่แล้ว แต่ผมทำให้มันสงบ ทำให้ประเทศเข้มแข็ง เพราะฉะนั้นทุกอย่างถ้าใช้วาทกรรมอย่างเดียวก็ทะเลาะกันไม่เลิก ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผลในการทำ ในการกระทำในตัวของมันเองด้วย
อีกประการหนึ่งฝากถึงพี่น้องประชาชน ท่านต้องเปิดใจยอมรับ การกำหนดเป้าหมายในชีวิตที่ต้องการ ตนทราบดีว่าประชาชนต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม มีรายได้ที่สูงขึ้น มีอาชีพที่ดี เป็นหลักเป็นแหล่งยั่งยืน และต้องการความมีระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่ท่านก็ต้องพร้อมกับปรับตัว ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังทำรวมกับเรากันอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องการจัดระเบียบ เรื่องอะไรต่างๆ ที่เคยปล่อยปละละเลยเรื่องกฎหมายมา มันต้องปรับเข้าที่เข้าทาง การขายของผมรู้ว่าท่านเดือดร้อน แต่มันจะทำยังไงได้ ถ้าเราต้องการสิ่งที่เรามองงในอนาคต สิ่งที่เราจะต้องเข้มแข็ง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีรายได้ที่ทั่วถึงเป็นธรรม การประกอบการต่างๆ ไม่มีการทุจริตมันก็จะลำบากกันตอนนี้ ท่านลองนึกสิครับ ท่าน ต้องค้าขายในที่ผิดกฎหมายมามันก็นาน เป็นสิ่งที่คุ้นเคย พอเราขยับตรงนี้หน่อย ประชาชนก็บอกไม่สะดวกสบายกันเหมือนเดิมอีก รถตู้ไกลก็ต้องไกล แต่ก็ต้องให้การบริการในช่วงนี้มันผ่านไป เราจะทำอย่างไร มีรถรับ-ส่ง ได้ไหม รถในพื้นทีปริมณฑลกับต่างจังหวัด มันก็ไม่ไกลกัน หาทางออกให้ได้สิ โดยที่ไม่ทำให้กฎหมายเสียหาย ตอนนี้ผมก็ทราบ จากท่านรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังหารือประชุมในเรื่องนี้ สั่งการไปในขั้นต้นแล้ว หากทุกคนต้องการความสะดวกสบายเหมือนเดิม ต้องการความไร้ระเบียบไร้กฎหมายเหมือนเดิม มันไม่มีทางได้สิ่งใหม่ๆ มา เราต้องยอมรับความจริง มันยากลำบาก แต่มันนำไปสู่ความสะดวกสบายในอนาคต สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ใหม่ๆ ที่ท่านต้องการกำลังรออยู่ ท่านต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ อย่าขัดแย้งกับเราอีกเลย ขอให้ทุกอย่างเป็นไปโดยความเรียบร้อย ขอพระคุณครับ สวัสดีครับ ขอให้มีความสุขตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ สวัสดีครับ