พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เข้าล่อซื้อการค้ามนุษย์ภายในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี แล้วเจ้าของร้านร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าถูกกลั่นแกล้ง จนมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สารวัตรกองกกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 2 โดยขาดจากต้นสังกัดเดิมนั้น ขณะนี้เจ้าของร้านเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาแล้ว ให้ดำเนินคดีตำรวจชุดจับกุมว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยวและเรียกรับผลประโยชน์ โดยคดีดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ตรวจสอบและดำเนินคดีตำรวจที่ถูกกล่าวหา และทำคดีในส่วนความเสียหายที่เจ้าของร้าน ได้รับ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 สั่งให้ตำรวจทั้งหมดเข้าให้ ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ถึงข้อเท็จจริงที่ เกิดขึ้น แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างวันหยุดราชการ จึงยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เบื้องต้นให้ตำรวจชุดจับกุมที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดมาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ภ.2 ไว้ก่อนแล้ว ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนกรณีที่เจ้าของร้านโทรศัพท์ตรงถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้นั้น มีความเห็นว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับสายโทรศัพท์ทุกคน หากไม่ติดประชุม ซึ่งเป็นการโทรศัพท์ไปสอบถามเหตุการณ์เบื้องต้น และพล.ต.อ.จักรทิพย์ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และไม่เข้าข้างตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบแน่นอน จึงอยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวสารของตำรวจในด้านดีบ้างแม้จะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น แต่ตำรวจที่ตั้งใจทำงานก็ยังมีอีกจำนวนมาก ไม่อยากให้บั่นทอนกำลังใจคนตั้งใจทำงาน
ส่วนกรณีที่เจ้าของร้านโทรศัพท์ตรงถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้นั้น มีความเห็นว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับสายโทรศัพท์ทุกคน หากไม่ติดประชุม ซึ่งเป็นการโทรศัพท์ไปสอบถามเหตุการณ์เบื้องต้น และพล.ต.อ.จักรทิพย์ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และไม่เข้าข้างตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบแน่นอน จึงอยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวสารของตำรวจในด้านดีบ้างแม้จะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น แต่ตำรวจที่ตั้งใจทำงานก็ยังมีอีกจำนวนมาก ไม่อยากให้บั่นทอนกำลังใจคนตั้งใจทำงาน
