นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสภาพรถและเรือดับเพลิงมูลค่ารวม 6,687 ล้านบาท ภายหลังคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศตัดสินให้บริษัทสไตเออร์ฯ จ่ายเงิน 20.49 ล้านยูโร หรือประมาณ 800 ล้านบาทให้แก่กรุงเทพมหานคร โดยให้รับสินค้าทั้งหมด ว่าภายหลังสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ได้ตั้งกรรมการขึ้นมา 35 คน เพื่อเข้าประเมินความเสียหายรถดับเพลิงและรถกู้ภัย 176 คัน ที่ถูกส่งมาเป็นล็อตแรกเมื่อปี 2549 ซึ่งจัดเก็บรักษาไว้ที่โกดังสินค้าของบริษัทเทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ ต.ไทรน้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี อย่างละเอียด ซึ่งจากการประเมินงบประมาณการซ่อมแซมรถดับเพลิงและรถกู้ภัย 176 คัน ล็อตแรก ค่าซ่อมแซมอยู่ที่ 183 ล้านบาท ขณะนี้ สปภ. อยู่ระหว่างจัดทำแผนการดำเนินการการนำรถดับเพลิงและรถกู้ภัย 176 คันในล็อตแรกออกมาใช้ เพื่อเสนอสำนักงบประมาณ ในการขอจัดสรรงบกลางจำนวน 183 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดซ่อมรถดับเพลิงและรถกู้ภัย
อย่างไรก็ตาม นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่าส่วนความคืบหน้าการขอยกเว้นอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มรถและเรือดับเพลิงนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับกรมศุลลากร เพื่อขอยกเว้นอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มรถและเรือดับเพลิง โดยได้ประมาณการค่าอากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเบื้องต้นจะอยู่ประมาณ 2,175 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอด ณ วันที่ 30 เมษายน 2559
อย่างไรก็ตาม นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่าส่วนความคืบหน้าการขอยกเว้นอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มรถและเรือดับเพลิงนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับกรมศุลลากร เพื่อขอยกเว้นอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มรถและเรือดับเพลิง โดยได้ประมาณการค่าอากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเบื้องต้นจะอยู่ประมาณ 2,175 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอด ณ วันที่ 30 เมษายน 2559
