ศ.ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการบรรยายพิเศษโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมในประเทศไทย จัดโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) ว่าในเชิงยุทธศาสตร์ เรื่องศิลปวัฒนธรรมจะต้องถูกจัดการให้เป็นระบบ โดยต้องล็อคให้อยู่ในกฎหมายมหาวิทยาลัย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่างรัฐธรรมนูญ และกรอบความตกลงอาเซียน โดยเฉพาะในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะลงประชามติวันที่ 7 สิงหาคมนี้ กำหนดชัดว่าเป็นหน้าที่ของรัฐต้องทำนุบำรุงส่งเสริมจัดการให้มีการสนใจใฝ่รู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์ต่าง ๆ จนถึงระดับชาติ หากไม่ทำตามรัฐมีความผิดให้ฟ้องรัฐได้ ซึ่งหากผ่านก็จะเกิดประโยชน์ต่อวงการศิลปวัฒนธรรมอย่างมาก แต่หากไม่ผ่านต้องเขียนใหม่ตนยืนยันที่จะใส่ 2 มาตราดังกล่าวเข้าไปในร่างรัฐธรรมนูญใหม่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ดังนั้นศ.ดร.วิษณุ กล่าวอีกว่าฝากถึง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ว่า หากศิลปวัฒนธรรมใช้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ทำไมไม่เอาศิลปวัฒนธรรมเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนในชาติ ด้วยการละลายพฤติกรรม ละลายสี และล้างทัศนคติที่ผิด ๆ ขณะเดียวกันยังถึงเวลาแล้วที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ควรจะมีนโยบายจริงจังส่งเสริมให้ทุกโรงเรียนสอนเด็กให้เล่น รู้ และแสดงศิลปวัฒนธรรมอย่างน้อยคนละ1 อย่าง เชื่อว่าชะช่วยฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมไทยได้อีกเยอะ
อย่างไรก็ตาม ดังนั้นศ.ดร.วิษณุ กล่าวอีกว่าฝากถึง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ว่า หากศิลปวัฒนธรรมใช้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ทำไมไม่เอาศิลปวัฒนธรรมเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนในชาติ ด้วยการละลายพฤติกรรม ละลายสี และล้างทัศนคติที่ผิด ๆ ขณะเดียวกันยังถึงเวลาแล้วที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ควรจะมีนโยบายจริงจังส่งเสริมให้ทุกโรงเรียนสอนเด็กให้เล่น รู้ และแสดงศิลปวัฒนธรรมอย่างน้อยคนละ1 อย่าง เชื่อว่าชะช่วยฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมไทยได้อีกเยอะ