ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวคะฉิ่นในเชียงใหม่รวมตัวหน้าสถานกงสุลใหญ่พม่า ยื่นหนังสือประณามการใช้กองทัพทหารโจมตีและกดขี่ข่มเหงประชาชนในรัฐคะฉิ่นและเขตรัฐฉานตอนเหนือ พร้อมเรียกร้องขอให้ยุติเนื่องจากมีประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยสงครามอย่างหนัก
ช่วงสายวันนี้ (5 ม.ค. 60) ชาวคะฉิ่นที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 50 คน รวมตัวกันที่บริเวณหน้าสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสหภาพพม่า ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยโดยรอบ ซึ่งการรวมตัวกันของชาวคะฉิ่นในครั้งนี้เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องของชาวคะฉิ่นในประเทศไทยต่อรัฐบาลพม่า และกองทัพทหารพม่า ผ่านทางสถานกงสุล อย่างไรก็ตาม ทางสถานกงสุลไม่ได้ส่งตัวแทนออกมารับหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด โดยทางกลุ่มชาวคะฉิ่นได้ส่งหนังสือผ่านทางตู้รับจดหมายด้านหน้าแทน
ทั้งนี้ หนังสือเรียกร้องดังกล่าวระบุว่า สืบเนื่องจากกองทัพทหารพม่าได้เข้าโจมตีในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อันสร้างผลกระทบและความเสียหายอย่างต่อเนื่องตลอดมา แม้ว่าประเทศพม่าได้เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้วก็ตาม แต่กองทัพทหารพม่ายังคงกดขี่ข่มเหงกลุ่มชาติพันธุ์และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดระดับความรุนแรงแต่อย่างใด จนกระทั่งถึงปัจจุบันกองทัพทหารพม่ายังคงไว้ซึ่งอำนาจอย่างไร้ความชอบธรรม มีการเข้าโจมตีกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องสร้างความเสียหายต่อประชาชนโดยรวม
ยกตัวอย่างเช่น การเข้าโจมตีและกดขี่ประชาชนในพื้นที่รัฐคะฉิ่นและพื้นที่เมืองโก ในเขตรัฐฉานตอนเหนือ อันเป็นหลักฐานที่ชัดเจนในรัฐธรรมนูญปี 2008 ได้เขียนไว้ชัดเจนว่าให้กองทัพพม่าเข้ามามีอำนาจที่จะปราบปรามและเข้าโจมตีในพื้นที่ของชาติพันธุ์ ดังเช่นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 ได้เข้าโจมตีฐานที่มั่น กี่ต่อน รัฐคะฉิ่นและเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 เข้าโจมตีฐานที่มั่นหล่ายผ่อง รัฐคะฉิ่น
โดยการเข้าโจมตีแต่ละแห่งนั้นได้ใช้อาวุธหนักอีกทั้งใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดในแต่ละพื้นที่มากกว่าพันครั้ง นอกจากนั้นแล้วยังทิ้งระเบิดโจมตีที่พักพิงอพยพ ซายอ่อง อันสร้างความเสียหายต่อผู้อพยพอย่างรุนแรง ขณะที่เมื่อช่วงปี 2011-2016 กองทัพพม่าได้ทำการรบกับกองกำลังคะฉิ่น ได้สร้างความสูญเสีย ประชาชนได้อพยพเข้าไปในประเทศจีน แต่ทางการจีนไม่อนุญาตให้เข้าไปทำให้ผู้อพยพประสบความลำบากต้องอาศัยกินนอนอยู่บนถนน ใช้ใบตองปูนอน ไม่มีหลักประกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
จากเหตุการณ์ดังกล่าวชาวคะฉิ่นในประเทศไทยจึงขอประณามการกระทำของกองทัพทหารพม่า และขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและกองทัพทหารพม่า ได้แก่ 1. ขอให้รัฐบาลและกองทัพทหารพม่ายุติการโจมตีและกดขี่ข่มเหงประชาชนในรัฐคะฉิ่นและเขตรัฐฉานตอนเหนือ 2. ขอให้รัฐบาลพม่าทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีการหายตัวไปของศาสนาจารย์และอนุศาสนาจารย์ในเขตพื้นที่เมืองโก
นอกจากนี้ มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลจีนขอให้อนุญาตให้ผู้อพยพชาวคะฉิ่นได้หนีภัยสงครามเข้าไปพักพิงในเขตประเทศจีน อีกทั้งขอให้ทางรัฐบาลจีนมีมนุษยธรรมต่อผู้อพยพชาวคะฉิ่น ขณะเดียวกัน เรียกร้องต่อรัฐบาลรัสเซียขอให้ตรวจสอบและดำเนินการสอบสวนเอาผิดกรณีมีข้อมูลว่าทหารรัสเซียให้การช่วยเหลือกองทัพพม่าในการโจมตีรัฐคะฉิ่นด้วย