อิรักไว้อาลัยเหยื่อคาร์บอมบ์ในกรุงแบกแดดที่ล่าสุดยอดพุ่งเป็นอย่างน้อย 213 คน ท่ามกลางความโกรธแค้นของประชาชนต่อความย่อหย่อนในการรักษาความปลอดภัยของรัฐบาล กระทั่งนายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อบาดี ต้องประกาศยกเครื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยขนานใหญ่ ซึ่งรวมถึงการเลิกใช้เครื่องตรวจจับระเบิดเก๊รูปแบบเดียวกับจีที 200 ที่ไทยถูกแหกตา
เหตุคาร์บอมบ์ที่ถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในอิรักคราวนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (3) ที่เขตคาร์ราดา ของเมืองหลวงแบกแดด ขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังจับจ่ายก่อนถึงเทศกาลวันหยุดเนื่องในวาระสิ้นสุดการถือศีลอดในสัปดาห์นี้
เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวอิรักมากมายไม่พอใจรัฐบาลที่ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยประชาชนได้ แม้จะได้ขับไล่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกจากหลายพื้นที่ และบีบให้อบาดีต้องประกาศความพยายามในการแก้ไขข้อบกพร่องที่สะสมมายาวนานของมาตรการรักษาความปลอดภัยแบกแดด
ในวันจันทร์ (4) สำนักนายกรัฐมนตรีประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลาสามวันให้ผู้เสียชีวิต ขณะที่อบาดีให้คำมั่นจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
การโจมตีซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและแพทย์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 213 คนและบาดเจ็บกว่า 200 คนครั้งนี้ มีขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงอิรักสามารถยึดเมืองฟัลลูจาห์ คืนจากไอเอส ทั้งนี้ฟัลลูจาห์เป็นที่มั่นสำคัญของไอเอส ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแบกแดดเพียงชั่วเวลาขับรถราว 1 ชั่วโมง
แรงระเบิดจากคาร์บอมบ์สร้างความเสียหายต่ออาคารที่อยู่ใกล้เคียง วันจันทร์เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินและญาติมิตรยังคงตามหาผู้สูญหาย โดยเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันพลเรือนผู้หนึ่งเผยว่า คงต้องใช้เวลาหลายวันในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต
เมื่อวันอาทิตย์ ไอเอสแถลงอ้างความรับผิดชอบเหตุคาร์บอมบ์ โดยระบุว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายเป็นชาวอิรัก และเป้าหมายคือชาวมุสลิมนิกายชีอะต์ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ในอิรัก
เหตุคาร์บอมบ์ที่ถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในอิรักคราวนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (3) ที่เขตคาร์ราดา ของเมืองหลวงแบกแดด ขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังจับจ่ายก่อนถึงเทศกาลวันหยุดเนื่องในวาระสิ้นสุดการถือศีลอดในสัปดาห์นี้
เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวอิรักมากมายไม่พอใจรัฐบาลที่ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยประชาชนได้ แม้จะได้ขับไล่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกจากหลายพื้นที่ และบีบให้อบาดีต้องประกาศความพยายามในการแก้ไขข้อบกพร่องที่สะสมมายาวนานของมาตรการรักษาความปลอดภัยแบกแดด
ในวันจันทร์ (4) สำนักนายกรัฐมนตรีประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลาสามวันให้ผู้เสียชีวิต ขณะที่อบาดีให้คำมั่นจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
การโจมตีซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและแพทย์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 213 คนและบาดเจ็บกว่า 200 คนครั้งนี้ มีขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงอิรักสามารถยึดเมืองฟัลลูจาห์ คืนจากไอเอส ทั้งนี้ฟัลลูจาห์เป็นที่มั่นสำคัญของไอเอส ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแบกแดดเพียงชั่วเวลาขับรถราว 1 ชั่วโมง
แรงระเบิดจากคาร์บอมบ์สร้างความเสียหายต่ออาคารที่อยู่ใกล้เคียง วันจันทร์เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินและญาติมิตรยังคงตามหาผู้สูญหาย โดยเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันพลเรือนผู้หนึ่งเผยว่า คงต้องใช้เวลาหลายวันในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต
เมื่อวันอาทิตย์ ไอเอสแถลงอ้างความรับผิดชอบเหตุคาร์บอมบ์ โดยระบุว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายเป็นชาวอิรัก และเป้าหมายคือชาวมุสลิมนิกายชีอะต์ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ในอิรัก