xs
xsm
sm
md
lg

คาร์บอมบ์ถล่มแบกแดดดับ 83 กลุ่มรัฐอิสลามอ้างเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - เกิดเหตุคาร์บอมบ์สองระลอกในกรุงแบกแดดเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.ค.) มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 คน และบาดเจ็บอีก 176 คน โดยกลุ่มไอเอสได้ออกแถลงการณ์อวดอ้างบนเว็บไซต์ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งหากเป็นจริงจะเท่ากับเป็นการตอกย้ำว่า แม้ปราชัยในสนามรบ แต่กลุ่มก่อการร้ายนี้ยังสามารถเปิดฉากโจมตีรุนแรงในพื้นที่ที่ห่างไกลจากแนวหน้า

ตำรวจและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเผยว่า เหตุคาร์บอมบ์ครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นที่คาราดาซึ่งเป็นย่านชอปปิ้งใจกลางเมืองหลวงของอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 78 คน และบาดเจ็บ 160 คน เนื่องจากขณะเกิดเหตุประชาชนจำนวนมากพากันออกจากบ้านไปที่ถนนดังกล่าว หลังจากดวงอาทิตย์ขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งอยู่ในช่วงเทศกาลถือศีลอด

กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างความรับผิดชอบผ่านแถลงการณ์ออนไลน์ โดยระบุว่าเป้าหมายการโจมตีคือมุสลิมชีอะห์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถตรวจสอบยืนยันแถลงการณ์นี้ได้

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงพยายามดับเพลิงที่ลุกไหม้จากระเบิดและค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในซากอาคาร ผู้สื่อข่าวรายงานจากสถานที่เกิดเหตุว่า เหยื่อจำนวนมากเป็นเด็ก

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ระเบิดทำให้เกิดไฟไหม้ร้านเสื้อผ้าและร้านขายโทรศัพท์มือถือซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

หลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อบาดี เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ คลิปที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นฝูงชนที่โกรธเกรี้ยวตะโกนเรียกอบาดีว่า “โจร” ขณะที่ขบวนรถของผู้นำอิรักเคลื่อนผ่าน

ส่วนเหตุคาร์บอมบ์จุดที่ 2 เกิดขึ้นทางตะวันออกของแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนและบาดเจ็บ 16 คน แต่ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าวได้รับการยืนยันจากตำรวจและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตน เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลแก่สื่อ

การโจมตีทั้งสองครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเพียงสัปดาห์เดียวที่กองกำลังอิรักประกาศว่า สามารถปลดปล่อยเมืองฟัลลูจาห์จากไอเอสได้สำเร็จ

ในช่วงที่ผ่านมา กองกำลังอิรักสามารถยึดพื้นที่คืนจากกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้หลายแห่ง เช่น เมืองรามาดี ฮิตและรัตบา รวมถึงจังหวัดอันบาร์ทางตะวันตกของแบกแดด

อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลเป็นฝ่ายมีชัยในสนามรบ ทว่าไอเอสยังแสดงให้เห็นบ่อยครั้งว่า สามารถเปิดฉากโจมตีจากจุดที่อยู่ห่างไกลแนวหน้า

ก่อนเริ่มปฏิบัติการชิงเมืองฟัลลูจาห์คืน นายกรัฐมนตรีอิรักเผชิญความไม่สงบในสังคมและการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในแบกแดดรุนแรงขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากความโกรธแค้นของประชาชนที่รู้สึกว่า แม้แต่ในเมืองหลวงยังไร้ซึ่งความปลอดภัย โดยในรอบหนึ่งเดือนนั้นมีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลบุกเข้าไปในเขตกรีนโซนที่มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาในแบกแดด และเป็นที่ตั้งอาคารรัฐบาลและสถานที่ทำการนักการทูตถึงสองครั้ง

นอกจากนี้ ไอเอสยังคงยึดครองโมซุล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก รวมถึงพื้นที่สำคัญอีกหลายจุดทางด้านเหนือและตะวันตกของอิรัก

จากข้อมูลของสำนักนายกรัฐมนตรีอิรัก ในช่วงที่ไอเอสเรืองอำนาจที่สุดในอิรักคือเมื่อสองปีที่แล้วนั้น กลุ่มก่อการร้ายนี้ยึดครองพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของอิรัก แต่ปัจจุบันคาดว่าพื้นที่ครอบครองของไอเอสเหลือเพียง 14%


กำลังโหลดความคิดเห็น