นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความและประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหญิงสาวที่ถูกหมอเถื่อนฉีดฟิลเลอร์ใบหน้า จนทำให้ดวงตาใกล้บอด มาชี้ตัวผู้ต้องหา ที่ สน.ทุ่งสองห้อง หลังสามารถจับกุมตัวได้แล้ว
นายอัจฉริยะระบุว่าคดีล่าช้าเกือบ 9 เดือน เนื่องจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เรียกรับรางวัลนำจับ จึงได้ประสานผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวานนี้และนำไปสู่การจับกุมตัว เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา รวม 3 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ประกอบวิชาชีพโดยไม่ขึ้นทะเบียนเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เปิดสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะหลบหนีและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน
ส่วนทนายความ ขอเพิ่มข้อหา จำหน่ายยาอันตรายด้วย โดยตำรวจขอรวบรวมหลักฐานการตรวจพิสูจน์ยาดังกล่าวก่อน หากอันตรายจริงจะเพิ่มในสำนวนต่อไป ขณะที่ทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่า ผู้เสียหาย ได้รับสารเหลวบางชนิดเข้าไปอุดตันประสาทตา ส่งผลให้ตาเกือบบอดสนิท นอกจากนี้ทนายความ ยังทำหนังสือผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการเรียกรับเงินนำจับในคดีนี้ด้วย
นายอัจฉริยะระบุว่าคดีล่าช้าเกือบ 9 เดือน เนื่องจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เรียกรับรางวัลนำจับ จึงได้ประสานผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวานนี้และนำไปสู่การจับกุมตัว เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา รวม 3 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ประกอบวิชาชีพโดยไม่ขึ้นทะเบียนเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เปิดสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะหลบหนีและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน
ส่วนทนายความ ขอเพิ่มข้อหา จำหน่ายยาอันตรายด้วย โดยตำรวจขอรวบรวมหลักฐานการตรวจพิสูจน์ยาดังกล่าวก่อน หากอันตรายจริงจะเพิ่มในสำนวนต่อไป ขณะที่ทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่า ผู้เสียหาย ได้รับสารเหลวบางชนิดเข้าไปอุดตันประสาทตา ส่งผลให้ตาเกือบบอดสนิท นอกจากนี้ทนายความ ยังทำหนังสือผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการเรียกรับเงินนำจับในคดีนี้ด้วย