สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เปิดเผยผลกระทบกรณีชาวอังกฤษส่วนใหญ่มีมติให้ออกจากกลุ่มอียู (British Exit - Brexit) ว่า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเกษตรไทย แบ่งออกเป็นด้านการค้าระหว่างประเทศ เมื่ออังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ผลกระทบต่อการค้าสินค้าเกษตรอาจไม่ส่งผลกระทบทางตรงมากนัก เนื่องจากไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปอังกฤษร้อยละ 2.88 ของมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรรวม(มูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรรวม = 1.21 ล้านล้านบาท) แต่ระยะยาว หากอียูมีบทบาทในตลาดทางการค้าลดลง อาจจะส่งผลต่อไทย เพราะไทยส่งออกสินค้าเกษตรอียูร้อยละ 9.56 ของมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรรวม ซึ่งสินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปอังกฤษ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป ทูน่าบรรจุ กุ้งขาวแวนนาไม เป็นต้น
ขณะที่ผลกระทบด้านการลงทุน วิเคราะห์จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI Inflows)ปี 2558 พบว่า อียูมีมูลค่าการลงทุนธุรกิจด้านการเกษตรในไทย 112.93 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42.02 ของมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ธุรกิจด้านการเกษตรรวม (FDI Inflows of Agricultural = 268.73 ล้านบาท) และอังกฤษมีมูลค่าการลงทุนธุรกิจด้านการเกษตรในไทย 0.62 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.23 ของมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ธุรกิจด้านการเกษตรรวม ทั้งนี้ หากอังกฤษออกจากอียูอาจยังไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยตรง ธุรกิจด้านการเกษตรจากอังกฤษมากนัก ด้วยสัดส่วนการลงทุนโดยตรงที่ค่อนข้างต่ำ แต่ระยะยาวอาจจะส่งผลดีต่อการลงทุน ถ้าอังกฤษเสียสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน อาจจะทำให้อังกฤษ เปลี่ยนการลงทุนมายังประเทศ หรือภูมิภาคอื่นๆ มากขึ้น
ขณะที่ผลกระทบด้านการลงทุน วิเคราะห์จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI Inflows)ปี 2558 พบว่า อียูมีมูลค่าการลงทุนธุรกิจด้านการเกษตรในไทย 112.93 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42.02 ของมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ธุรกิจด้านการเกษตรรวม (FDI Inflows of Agricultural = 268.73 ล้านบาท) และอังกฤษมีมูลค่าการลงทุนธุรกิจด้านการเกษตรในไทย 0.62 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.23 ของมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ธุรกิจด้านการเกษตรรวม ทั้งนี้ หากอังกฤษออกจากอียูอาจยังไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยตรง ธุรกิจด้านการเกษตรจากอังกฤษมากนัก ด้วยสัดส่วนการลงทุนโดยตรงที่ค่อนข้างต่ำ แต่ระยะยาวอาจจะส่งผลดีต่อการลงทุน ถ้าอังกฤษเสียสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน อาจจะทำให้อังกฤษ เปลี่ยนการลงทุนมายังประเทศ หรือภูมิภาคอื่นๆ มากขึ้น