นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีและชัยนาท เพื่อประชุมร่วมกับพาณิชย์จังหวัด เกษตรกร และผู้ประกอบการโรงสีในพื้นที่ เพื่อติดตามการดำเนินงานการเชื่อมโยงตลาดข้าวครบวงจรให้แก่เกษตรกรกลุ่มทำนาแปลงใหญ่ตามแผนการผลิต และการตลาดข้าวครบวงจร โดยจะไปดูความคืบหน้าการจัดทำแผนงานด้านการตลาด เพื่อรองรับผลผลิตข้าวจากนาแปลงใหญ่ฤดูการผลิตปี 2559/60 ที่จะออกมา
นางสาวชุติมา กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์จะลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการวางแผนรองรับด้านการตลาดให้แก่เกษตรกรกลุ่มทำนาแปลงใหญ่ในพื้นที่ โดยหารือร่วมกับผู้ประกอบการ ประธานชมรมโรงสีในจังหวัด เกี่ยวกับแนวทางการรับซื้อข้าวจากเกษตรกรราคาตลาดตามคุณภาพ และมาตรฐานที่กำหนดร่วมกัน และเพื่อเป็นการจูงใจให้เกษตรกรผลิตข้าวคุณภาพดี และขอให้หารือกับผู้ประกอบการโรงสีในการรับซื้อสูงกว่าราคาตลาด และพิจารณาจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน
ทั้งนี้ ได้เดินทางไปศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หมู่ 11 ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อพบปะผู้นำเกษตรกร เครือข่ายของกลุ่มนาแปลงใหญ่ ผู้ประกอบการโรงสีที่เข้าร่วมการเชื่อมโยงตลาดของโครงการนาแปลงใหญ่ โดยมีเกษตรกรตำบลเดิมบาง 137 ราย มีพื้นที่รวมกันกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์การเรียนรู้ฯ ที่เกิดจากการรวมกลุ่มกันตั้งแต่ปี 2552 ของชาวนา เพื่อลดต้นทุนการทำนา โดยอาศัยวิธีทางธรรมชาติ ใช้สารชีวภัณฑ์ในการกำจัดศัตรูพืช ทำให้ผ่านวิกฤติเพลี่ยกระโดดสีน้ำตาลที่ระบาดหนักในช่วงปี 2554 มาได้ และหลังจากนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ เกษตรกรได้แก้ไขปัญหาการผลิตและการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้จาก 5,000 บาท/ไร่ เหลือเพียง 2,900 บาท/ไร่ ผลผลิตข้าวเพิ่มจาก 700-800 กก./ไร่ เป็น 1,100 กก./ไร่
นางสาวชุติมา กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์จะลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการวางแผนรองรับด้านการตลาดให้แก่เกษตรกรกลุ่มทำนาแปลงใหญ่ในพื้นที่ โดยหารือร่วมกับผู้ประกอบการ ประธานชมรมโรงสีในจังหวัด เกี่ยวกับแนวทางการรับซื้อข้าวจากเกษตรกรราคาตลาดตามคุณภาพ และมาตรฐานที่กำหนดร่วมกัน และเพื่อเป็นการจูงใจให้เกษตรกรผลิตข้าวคุณภาพดี และขอให้หารือกับผู้ประกอบการโรงสีในการรับซื้อสูงกว่าราคาตลาด และพิจารณาจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน
ทั้งนี้ ได้เดินทางไปศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หมู่ 11 ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อพบปะผู้นำเกษตรกร เครือข่ายของกลุ่มนาแปลงใหญ่ ผู้ประกอบการโรงสีที่เข้าร่วมการเชื่อมโยงตลาดของโครงการนาแปลงใหญ่ โดยมีเกษตรกรตำบลเดิมบาง 137 ราย มีพื้นที่รวมกันกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์การเรียนรู้ฯ ที่เกิดจากการรวมกลุ่มกันตั้งแต่ปี 2552 ของชาวนา เพื่อลดต้นทุนการทำนา โดยอาศัยวิธีทางธรรมชาติ ใช้สารชีวภัณฑ์ในการกำจัดศัตรูพืช ทำให้ผ่านวิกฤติเพลี่ยกระโดดสีน้ำตาลที่ระบาดหนักในช่วงปี 2554 มาได้ และหลังจากนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ เกษตรกรได้แก้ไขปัญหาการผลิตและการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้จาก 5,000 บาท/ไร่ เหลือเพียง 2,900 บาท/ไร่ ผลผลิตข้าวเพิ่มจาก 700-800 กก./ไร่ เป็น 1,100 กก./ไร่