นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เป็นประธานการประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.ดร.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผู้กำกับสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และนายพงษ์ธร วนสุคณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานเทคนิคและเฝ้าระวังการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการเผยแพร่ข้อมูลที่หยาบคาย เป็นเท็จ และปลุกระดม ในการออกเสียงประชามติ
นายสมชัย กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ กกต. บก.ปอท. และไอซีที เพื่อสร้างกลไกในการติดตามการกระทำผิดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน โดยจะมีการติดตามการกระทำในลักษณะดังกล่าวที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากเห็นว่าจากนี้ไปแนวโน้มการกระทำความผิดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะเป็นสนามรบหลักของการออกเสียงประชามติในครั้งนี้ มากกว่าการกระทำผิดบนพื้นดิน
คณะทำงานชุดนี้เป็นการทำงานร่วมกัน แต่ละฝ่ายจะมีคณะทำงานคอยติดตามการกระทำผิดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพบเหตุการณ์เผยแพร่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่ปรากฏคำพูดที่หยาบคาย เป็นเท็จ ปลุกระดมนำไปสู่การลงคะแนนทางใดทางหนึ่งของการออกเสียงประชามติ เราจะดำเนินการตามกฎหมายทันที แต่สำหรับประชาชนที่ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในการออกเสียงประชามติ ก็ไม่ต้องกังวล สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่หยาบคาย ปลุกระดม หรือบิดเบือนเป็นเท็จ
ส่วนการโพสต์เฟซบุ๊กไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกพรรคเพื่อไทย หากพบข้อเท็จจริงว่าพรรคเพื่อไทยอยู่เบื้องหลัง จะถึงขั้นยุบพรรคใช่หรือไม่นั้น นายสมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการร้องมายังนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองต้องรับเรื่องไว้เพื่อสอบสวน หากนายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดถึงขั้นยุบพรรค ก็จะเสนอต่อที่ประชุม กกต.รับทราบเพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนส่งให้อัยการสูงสุดส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปฟ
นายสมชัย กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ กกต. บก.ปอท. และไอซีที เพื่อสร้างกลไกในการติดตามการกระทำผิดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน โดยจะมีการติดตามการกระทำในลักษณะดังกล่าวที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากเห็นว่าจากนี้ไปแนวโน้มการกระทำความผิดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะเป็นสนามรบหลักของการออกเสียงประชามติในครั้งนี้ มากกว่าการกระทำผิดบนพื้นดิน
คณะทำงานชุดนี้เป็นการทำงานร่วมกัน แต่ละฝ่ายจะมีคณะทำงานคอยติดตามการกระทำผิดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพบเหตุการณ์เผยแพร่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่ปรากฏคำพูดที่หยาบคาย เป็นเท็จ ปลุกระดมนำไปสู่การลงคะแนนทางใดทางหนึ่งของการออกเสียงประชามติ เราจะดำเนินการตามกฎหมายทันที แต่สำหรับประชาชนที่ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในการออกเสียงประชามติ ก็ไม่ต้องกังวล สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่หยาบคาย ปลุกระดม หรือบิดเบือนเป็นเท็จ
ส่วนการโพสต์เฟซบุ๊กไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกพรรคเพื่อไทย หากพบข้อเท็จจริงว่าพรรคเพื่อไทยอยู่เบื้องหลัง จะถึงขั้นยุบพรรคใช่หรือไม่นั้น นายสมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการร้องมายังนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองต้องรับเรื่องไว้เพื่อสอบสวน หากนายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดถึงขั้นยุบพรรค ก็จะเสนอต่อที่ประชุม กกต.รับทราบเพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนส่งให้อัยการสูงสุดส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปฟ