นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2559 อยู่ที่ 6,050,595.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.09 ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ที่ร้อยละ 44.03 ของจีดีพี แบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล 4,474,219.15 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,039,689.49 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐค้ำประกัน) 524,402.57 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 12,284.67 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 36,946.02 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หนี้ของรัฐบาล 4,474,219.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 42,535.18 ล้านบาท โดยมาจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 46,436 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ 2,582.40 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ แบ่งเป็น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 1,240.73 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง การรถไฟแห่งประเทศไทย 1,314.67 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และโครงการปรับปรุงรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง
นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ 10,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ที่ครบกำหนดในวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ด้านหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,039,689.49 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 221.33 ล้านบาท โดยเปลี่ยนแปลงจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคออกพันธบัตร 4,000 ล้านบาท บริษัท การบินไทย ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนด 3,000 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท และการชำระคืนหนี้ต้นจากสัญญาเงินกู้ จากแหล่งเงินกู้ต่างๆ ที่มากกว่าการเบิกจ่ายทำให้หนี้ลดลง 1,035.41 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หนี้ของรัฐบาล 4,474,219.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 42,535.18 ล้านบาท โดยมาจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 46,436 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ 2,582.40 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ แบ่งเป็น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 1,240.73 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง การรถไฟแห่งประเทศไทย 1,314.67 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และโครงการปรับปรุงรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง
นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ 10,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ที่ครบกำหนดในวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ด้านหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,039,689.49 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 221.33 ล้านบาท โดยเปลี่ยนแปลงจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคออกพันธบัตร 4,000 ล้านบาท บริษัท การบินไทย ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนด 3,000 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท และการชำระคืนหนี้ต้นจากสัญญาเงินกู้ จากแหล่งเงินกู้ต่างๆ ที่มากกว่าการเบิกจ่ายทำให้หนี้ลดลง 1,035.41 ล้านบาท