หลังจากค่ำวานนี้ พนักงานสอบสวน กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) สามารถคุมตัวนายสาโรจน์ มีไผ่ ครูชายของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ใช้ทวิตเตอร์แชร์ภาพและคลิปวิดีโอขณะมีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนชาย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายถึงความเหมาะสม มาสอบปากคำ ก่อนฝากขังไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนนำตัวมาแถลงข่าวที่กองบัญชาการสอบสวนกลางในวันนี้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ที่นำตัวมาแถลงข่าววันนี้ เพื่อต้องการเตือนสังคมไม่ให้กระทำเป็นเยี่ยงอย่าง และการนำข้อมูลมาเผยแพร่ ทำให้กระทบสังคมวงกว้างเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ทั้งนี้ จะมีการสืบสวนขยายผลต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผู้บังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14 (5) และจะไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเด็กและครูมีพฤติกรรมเกี่ยวเนื่องกันอย่างไรบ้าง ส่วนจะตั้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องสืบค้นขยายผลต่อไป และอยู่ระหว่างการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่มีทั้งหมด3เครื่อง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหายอมรับว่าโพสต์ภาพบางส่วนในทวิตเตอร์ และบางส่วนเป็นการส่งต่อ รวมถึงจะต้องไปตรวจพิสูจน์ว่า ในภาพเป็นเด็กและเยาวชนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ทำกระทำอนาจารเด็กตามที่มีการกล่าวอ้าง และยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏในโซเชียลไม่ใช่เด็ก ทุกคนมีอายุเกิน 20 ปี พร้อมอ้างว่า หลายข้อมูลที่นำเสนอไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ไม่ใช่เด็กโรงเรียนสวนกุหลาบ ซึ่งภาพที่ปรากฏไป ไม่ได้มีอะไรที่บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นนักเรียน หรือเป็นเยาวชน รวมถึงบางภาพเป็นการแชร์มาจากโซเชียล เพราะมีกลุ่มที่พูดคุยกันในเรื่องลักษณะนี้อยู่แล้ว ส่วนข้อมูลบางอย่างไม่ได้มาจากตัวเองโดยตรง เพราะเมื่อรู้สึกถูกใจใครก็จะนำโทรศัพท์ไปแลกกันใช้ ผู้ต้องหา ระบุด้วยว่า ไม่อยากให้พาดพิงไปถึงสถาบันการศึกษา เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และยืนยันว่า ไม่เคยล่วงละเมิดทางเพศกับลูกศิษย์ในโรงเรียน แม้จะมีพฤติกรรมแบบนี้มานานกว่า 1 ปีแล้วก็ตาม
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ พนักงานสอบสวน ปอท. จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก และคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานฐาน และมีการข่มขู่พยาน เพราะตัวผู้ต้องหาเป็นครู อาจมีผลต่อลูกศิษย์
สำหรับครูคนดังกล่าว ทางโรงเรียนได้มีการลงโทษทางวินัยไปแล้ว คือสั่งให้ไปช่วยราชการที่เขต พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และไม่ให้สอนนักเรียน
ด้าน พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผู้บังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14 (5) และจะไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเด็กและครูมีพฤติกรรมเกี่ยวเนื่องกันอย่างไรบ้าง ส่วนจะตั้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องสืบค้นขยายผลต่อไป และอยู่ระหว่างการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่มีทั้งหมด3เครื่อง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหายอมรับว่าโพสต์ภาพบางส่วนในทวิตเตอร์ และบางส่วนเป็นการส่งต่อ รวมถึงจะต้องไปตรวจพิสูจน์ว่า ในภาพเป็นเด็กและเยาวชนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ทำกระทำอนาจารเด็กตามที่มีการกล่าวอ้าง และยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏในโซเชียลไม่ใช่เด็ก ทุกคนมีอายุเกิน 20 ปี พร้อมอ้างว่า หลายข้อมูลที่นำเสนอไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ไม่ใช่เด็กโรงเรียนสวนกุหลาบ ซึ่งภาพที่ปรากฏไป ไม่ได้มีอะไรที่บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นนักเรียน หรือเป็นเยาวชน รวมถึงบางภาพเป็นการแชร์มาจากโซเชียล เพราะมีกลุ่มที่พูดคุยกันในเรื่องลักษณะนี้อยู่แล้ว ส่วนข้อมูลบางอย่างไม่ได้มาจากตัวเองโดยตรง เพราะเมื่อรู้สึกถูกใจใครก็จะนำโทรศัพท์ไปแลกกันใช้ ผู้ต้องหา ระบุด้วยว่า ไม่อยากให้พาดพิงไปถึงสถาบันการศึกษา เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และยืนยันว่า ไม่เคยล่วงละเมิดทางเพศกับลูกศิษย์ในโรงเรียน แม้จะมีพฤติกรรมแบบนี้มานานกว่า 1 ปีแล้วก็ตาม
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ พนักงานสอบสวน ปอท. จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก และคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานฐาน และมีการข่มขู่พยาน เพราะตัวผู้ต้องหาเป็นครู อาจมีผลต่อลูกศิษย์
สำหรับครูคนดังกล่าว ทางโรงเรียนได้มีการลงโทษทางวินัยไปแล้ว คือสั่งให้ไปช่วยราชการที่เขต พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และไม่ให้สอนนักเรียน