นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ได้จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (Grassroots Economic Sentiment Index : GSI) เพื่อให้ธนาคารออมสิน และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้ติดตามภาวะเศรษฐกิจฐานรากอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากผลการสำรวจประจำเดือนเมษายน 2559 ได้ดำเนินการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ทั่วประเทศ จำนวน 1.58 พันตัวอย่าง ผลที่ได้พบว่า GSI อยู่ที่ระดับ 44.9 โดยการที่ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนในระดับฐานรากยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวไม่มากนัก โดยปัจจัยเรื่องปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงและราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ถือว่าเป็นตัวบั่นทอนความเชื่อมั่นในระดับภาพรวมของประชาชนในระดับฐานราก
ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากในปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 43.5 สะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานยังไม่ฟื้นตัวมากนัก และการที่ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากต่อสถานการณ์ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 46.2 สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนในระดับฐานรากมีความเชื่อมั่นมากขึ้นอย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต นอกจากนี้ประชาชนระดับฐานรากยังคงมีความกังวลใจต่อภาวะเศรษฐกิจจากภาระหนี้สินที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก คาดการณ์ว่าการบริโภคของประชาชนในระดับฐานรากจะฟื้นตัวได้ไม่มากนักในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากประชาชนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ประชาชนในระดับฐานราก กว่า 42.2% คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและขยายตัวในช่วงหลังปี 2560 รองลงมา 30.8% คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ภาวะปกติ และขยายตัวได้ในช่วงปี 2560 และกว่า 27% คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติและขยายตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2559
ทั้งนี้ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จะขยายตัวที่ระดับ 3% และจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3.5% และทั้งปี 2559 ประเมินว่าจีดีพีจะเติบโตที่ระดับ 3.2%
ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากในปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 43.5 สะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานยังไม่ฟื้นตัวมากนัก และการที่ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากต่อสถานการณ์ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 46.2 สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนในระดับฐานรากมีความเชื่อมั่นมากขึ้นอย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต นอกจากนี้ประชาชนระดับฐานรากยังคงมีความกังวลใจต่อภาวะเศรษฐกิจจากภาระหนี้สินที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก คาดการณ์ว่าการบริโภคของประชาชนในระดับฐานรากจะฟื้นตัวได้ไม่มากนักในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากประชาชนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ประชาชนในระดับฐานราก กว่า 42.2% คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและขยายตัวในช่วงหลังปี 2560 รองลงมา 30.8% คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ภาวะปกติ และขยายตัวได้ในช่วงปี 2560 และกว่า 27% คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติและขยายตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2559
ทั้งนี้ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จะขยายตัวที่ระดับ 3% และจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3.5% และทั้งปี 2559 ประเมินว่าจีดีพีจะเติบโตที่ระดับ 3.2%